Fintech (Financial Technology) มีความสำคัญอย่างมากต่อการแข่งขันของธนาคารในยุคปัจจุบัน เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงกระบวนการทำงานและการให้บริการทางการเงิน สามารถเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ ธนาคารกรุงศรีเองมีการ Transform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรในระยะยาว ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ไปจนถึงการเสริมสร้างนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอให้แก่ลูกค้า
ภายในงาน Krungsri Tech Day 2024: Technology for People ได้มีการเปิดเผยกลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการเงินและเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างความยั่งยืนจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในปี 2024 ธนาคารกรุงศรี (Krungsri) ได้เดินหน้ากลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องจากปี 2023 โดยมีแผนงานหลักภายใต้การพัฒนาที่เน้นความยั่งยืนและการเป็นผู้นำโดยมีการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ โดยเน้นด้านใดบ้าง จะพาไปลงรายละเอียดกัน
กรุงศรีเร่งสปีด! มุ่งเสริมแกร่ง-ปรับทุกกระบวนการให้เร็วขึ้น
สยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองว่าธนาคารกรุงศรี (Krungsri) การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาระบบ IT เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กร ครอบคลุมทุกแง่มุมของการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 แกนหลัก โดยมีจุดมุ่งหมายเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อน และมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงด้วย Jupiter Program เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบ Core Banking ที่ครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การปรับปรุงระบบหลังบ้านให้ Lean ไม่มีขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าให้ราบรื่นและทันสมัยมากขึ้น โครงการนี้ถูกวางโครงสร้างให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก ทั้งการนำ Cloud Computing และ API มาใช้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการให้บริการที่รวดเร็วและคล่องตัวขึ้น เช่น แอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกรรมรายวัน การจัดการสินเชื่อออนไลน์ การติดตามสถานะทางการเงิน หรือระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านมือถือได้รวดเร็วและปลอดภัย
2. ให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เป็นหัวใจสำคัญ (Inform) การใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ หรือการนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาบริการใหม่ๆ กรุงศรีได้นำเทคโนโลยี Big Data และ AI มาใช้เพื่อเสริมสร้างการจัดการข้อมูล และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Jupiter Program ซึ่งมุ่งเน้นการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการข้อมูลในระบบธนาคารให้มีความพร้อมในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่น การจัดการเอกสารที่เป็นดิจิทัลเพื่อลดการใช้กระดาษ การสร้างระบบสื่อสารภายในที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการนำระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) เข้ามาใช้ในการจัดการทรัพยากรภายใน ทำให้กระบวนการดำเนินงานมีความคล่องตัวมากขึ้น
3. การปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ่านแอปพลิเคชัน Krungsri Mobile App (KMA) หรือการใช้ Chatbots และ AI เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น การเน้นประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) เป็นแกนหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยกรุงศรีพยายามปรับปรุงทั้งในแง่ของความสะดวก ความปลอดภัย และการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์
4. การมุ่งเน้นที่ ESG (Environmental, Social, Governance) ได้วางแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายด้าน ESG โดยเน้นที่การสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เช่น การให้สินเชื่อที่สนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลงทุนในพลังงานสะอาด และการสร้างโครงการสนับสนุนลูกค้าให้ปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจที่มีคาร์บอนต่ำ นอกจากนี้ ธนาคารยังสร้างกลไกการจัดการเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของตนเอง และทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน
ทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยให้บริการได้รวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในตลาดปัจจุบัน ในความต้องการบริการที่รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น องค์กรได้เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ พัฒนาระบบที่ทำให้การดำเนินงานของธนาคารเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ ผ่านการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มการใช้ระบบอัตโนมัติ (Automation) ในการให้บริการ
พนักงานพร้อม! มอบประสบการณ์สุดประทับใจ ไร้รอยต่อ
ธนาคารกรุงศรี (Krungsri) ได้เน้นกลยุทธ์และพัฒนาทางเทคโนโลยีด้วยการออกแบบที่สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืน และปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคือการลงทุนใน “คน” และการสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในการใช้งานที่สะดวกและราบรื่นที่สุดสำหรับลูกค้า
สายสุนีย์ หาญประเทืองศีลป์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมดิจิทัลและข้อมูล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญมากกับทรัพยาการ “คน” เพราะเชื่อว่าพนักงานถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของบุคลากรในด้านเทคโนโลยีและการให้บริการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของตลาด
พชร วันรัตน์เศรษฐ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ที่พัฒนาเทคโนโลยีระบบ Open Infrastructure ที่ช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศของการให้บริการทางการเงินผ่านแพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง เช่น การใช้ API ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อให้บริการที่หลากหลายขึ้น การเปิดโอกาสให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อและใช้ประโยชน์จากบริการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การให้บริการครอบคลุมทั้งลูกค้ารายย่อย คู่ค้า และองค์กรอื่น ๆ ที่สามารถเข้าถึงระบบของธนาคารเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นไป และมุ่งการเดินหน้าสู่แนวคิด Embedded Finance หรือการเงินแบบฝังตัว ซึ่งหมายถึงการที่บริการทางการเงินสามารถถูกรวมเข้ากับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ช่องทางของธนาคารโดยตรง เช่น การรวมระบบการชำระเงินเข้ากับการช้อปปิ้งออนไลน์ หรือการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่ได้เป็นของธนาคาร แนวทางนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปที่ธนาคารหรือใช้แอปของธนาคารโดยตรง ทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันของลูกค้า เช่น การเดินทาง การช้อปปิ้ง หรือการทำธุรกรรมทางการเงิน สามารถทำได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่องโดยไม่สะดุด เพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่เรียบง่ายและสะดวกสบายสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะในส่วนของการช้อปปิ้ง การทำธุรกรรม และกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การออกแบบบริการที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) และเน้นการสร้าง “Journey” ของลูกค้าให้ราบรื่น เช่น การให้บริการการชำระเงิน การให้สินเชื่อ และบริการอื่น ๆ ที่เข้ากันได้อย่างไร้รอยต่อ
กรุงศรีพลิกโฉมสู่ Data-Driven Organization! ทีมเทคโนโลยีพร้อมเสริมแกร่งทุกมิติ
ตุลย์ โรจน์เสรี ผู้บริหารสายงานข้อมูลและการวิเคราะห์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนาโครงการและแนวคิดด้านเทคโนโลยี AI อย่างจริงจัง โดยทีม Krungsri AI ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับทั้งเครือกรุงศรี ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร กรุงศรีออโต้ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ และพันธมิตรในต่างประเทศ ทีมนี้ไม่เพียงแค่พัฒนา AI เพื่อใช้งานในองค์กร แต่ยังรวมคนที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI มาแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ
เป้าหมายหลักคือการใช้ AI เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจเพียงชั่วคราว ตัวอย่างเช่น การบริหารจัดการ ATM (ATM Optimisation) ที่นำ AI เข้ามาช่วยในการคาดการณ์จำนวนเงินที่ต้องเติมในตู้ ATM อย่างเหมาะสม หากเติมเงินมากเกินไปจะทำให้ธนาคารเสียทรัพยากรโดยไม่จำเป็น แต่หากเติมน้อยเกินไปก็จะส่งผลให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ไม่ดีและอาจเสียลูกค้าให้กับธนาคารอื่นได้ การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานจริงในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา จึงช่วยให้การบริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการขาดแคลนเงินในตู้ ATM หรือการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ เดิมทีต้องใช้ทีมงานออกไปประเมินในสถานที่จริงทุกครั้ง แต่การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลรอบข้าง อาทิ ความเจริญของพื้นที่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใกล้เคียง หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่รอบ ๆ จะช่วยให้การประเมินราคาเป็นไปได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้น การใช้ข้อมูลจาก AI ทำให้สามารถคาดการณ์ราคาคอนโดหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาการประเมินแบบดั้งเดิมทุกครั้ง เป็นต้น
อีกหนึ่งจุดสำคัญคือการบูรณาการแชทบอต (Chatbot) เข้ากับระบบอื่น ๆ ของธนาคาร เช่น แอปพลิเคชันมือถือและบริการออนไลน์อื่นๆ Chatbot จะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและบริการต่าง ๆ ที่ธนาคารนำเสนอ การพัฒนานี้จะช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทำธุรกรรมให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย รวมถึงด้านภายในองค์กรมีระบบ Knowledge Management ที่ให้พนักงานสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลความรู้ได้ทันทีผ่านการถามตอบกับ AI แทนที่จะต้องค้นหาเอกสารหรือข้อมูลจากหลายแหล่ง ระบบนี้ช่วยให้พนักงานในสาขาสามารถพิมพ์คำถามเข้าไปในระบบ และ AI จะทำการค้นหาคำตอบที่เกี่ยวข้องจากฐานข้อมูลกลางของธนาคาร หรือโครงการ Data ปุ๊บปั๊บ เป็นการพัฒนา AI เพื่อการเข้าถึงข้อมูลทันทีอาศัยความเชี่ยวชาญทางด้านการเขียนโค้ดเพื่อดึงข้อมูลที่ต้องการออกมาเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงองค์กรให้กลายเป็น Data-Driven Organization อย่างแท้จริง
โดยทีม Krungsri AI ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่มีการแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในเครือกรุงศรี เช่น กรุงศรีออโต้ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ และสเตลล่า รวมถึงพันธมิตรต่างประเทศที่ร่วมพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยี AI การมีการประชุมและการร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้ช่วยให้ทุกคนในเครือมีความเข้าใจและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
กรุงศรีผนึกกำลัง พัฒนาทักษะคนไทย สู่ยุคดิจิทัล
ปัจจุบันตลาดแรงงานในประเทศไทยประสบปัญหาความไม่สมดุล โดยเฉพาะในสายงานเทคโนโลยี ซึ่งมีความต้องการบุคลากรสูงมาก แต่การผลิตบุคลากรที่มีทักษะทางด้านนี้ยังไม่เพียงพอ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างการศึกษาที่อาจไม่สอดคล้องกับความต้องการในตลาด กรุงศรีต้องเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรด้านนี้ โดยเริ่มจากการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาในประเทศ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อสร้างหลักสูตรและโครงการที่ช่วยให้นักเรียนที่ศึกษาในสายไอทีและเทคโนโลยีได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานจริงตั้งแต่ยังอยู่ในช่วงการศึกษา
โครงการ QA Program และการเปิดโอกาสให้นอกสายงานไอทีจัดโดย Krungsri EGO หน่วยงานที่อยู่ในเครือกรุงศรีที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีและการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Development) เปิดโอกาสให้บุคลากรนอกสายงานเทคโนโลยีได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะในสายเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาโปรแกรม การทำงานในส่วนของเทคโนโลยี และการทดสอบซอฟต์แวร์ (Quality Assurance) ซึ่งโครงการนี้ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก และถือเป็นช่องทางในการดึงคนจากสายงานอื่นเข้ามาทำงานในสายเทคโนโลยี
โครงการ Krungsri Upskill Titan Program เพื่อเพิ่มโอกาสให้บุคลากรจากสายงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เทคโนโลยีสามารถเข้าสู่สายงานนี้ได้เน้นการฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Project Management ในระดับสากล ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสในการทดลองทำงานจริง ได้รับคำแนะนำและทดสอบความรู้เพื่อวัดระดับทักษะ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าทำงานในสายเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความสมดุลในตลาดแรงงานของประเทศไทย
สรุปแล้วหากธนาคารจะอยู่ให้รอดและเติบโตในยุคดิจิทัล ได้โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมการเงินในเชิงทรัพยากรแรงงานจะยิ่งสานต่อการพัฒนาอย่าต่อเนื่องให้กับอุตสาหกรรมการเงินจนส่งผลกระทบอันดีต่อประเทศได้อย่างแน่นอน