Share on
×

Share

ถ้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์มา โฉมหน้าเมืองเทวดาจะเป็นเช่นไร?

ตามคาดรัฐบาลเดินหน้าโครงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่มีบ่อนกาสิโนอยู่ข้างใน 5% เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่อ่านมา และที่ประชุม อนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์โดยพร้อมเพรียง พร้อมซุกมติยกพนันออนไลน์ให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายด้วยการดึงขึ้นมาบนดิน ให้เป็นของขวัญปีใหม่นักเสี่ยงโชคอีกด้วย  

หลักคิดที่ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ และบรรดารัฐมนตรีฯเพื่อไทย ยกขึ้นมาอ้างในการผลักดันโครงการนี้ เท่าที่ประมวลมีตั้งแต่ ดูตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ โอชากา ดูไบ ก็มี เป็นการสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ ที่จะช่วยปั่นจีดีพีให้โต 4-5%

หนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ลดช่องว่างการท่องเที่ยวระหว่างไฮซีซั่น กับโลว์ซีซั่น จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 4-5% สร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านบาท รัฐจะมีรายได้จากเอนเตอร์แทนฯ แต่ละแห่งไม่ต่ำกว่า 1.2-4 หมื่นล้านบาท

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง บอกว่า ช่วงก่อสร้าง (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) จะหนุนให้จีดีพีเพิ่ม 0.2% และช่วงเปิดให้บริการจะเพิ่มเป็น 0.7%

นอกจากตัวเลขที่ยกมาโชว์แล้ว เหตุผลสุดคลาสสิคที่คนในรัฐบาลมักยกมาอ้างถึงเหตุผลที่ประเทศไทยต้องมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมทั้งพนันออนไลน์ต้องขึ้นบนดิน คือ ปัจจุบันคนไทยชอบเล่นพนันอยู่แล้ว สู้นำการพนันทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ยกมาบนดินให้เป็นเรื่องถูกกฎหมายเสียเลยรัฐยังเก็บภาษีได้ด้วย

เหตุผลข้างต้นฟังเผิน ๆ ก็ดูดี แต่หลายภาคส่วนไม่ได้มองอย่างนั้น หนำซ้ำกังวลว่า นโยบายดังกล่าว สุ่มเสี่ยงต่อการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นวิบัติของประเทศเสียมากกว่า เพราะกาสิโนมักเกี่ยวโยงกับอาชญากรรม มาเฟีย การฟอกเงิน ปัญหาสังคม ฯลฯ  ยิ่งบ้านเรา การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างที่เห็น ๆ กัน

ฉะนั้น การมีกาสิโนพ่วงพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย จะยิ่งเอื้อให้ระบบนิเวศของธุรกิจอบายมุขเติบโต และยังสร้างความสับสนต่อความหมายของอบายมุขโดยเฉพาะต่อเยาวชน ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาสังคมให้ซับซ้อนหนักยิ่งขึ้นไปอีก

สัปดาห์ที่แล้ว หลังครม.มีมติ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เชิญชวนฯให้ประชาชนร่วมส่งเสียง “เราไม่เอากาสิโน” ปรากฎว่าคืนเดียวมีผู้ร่วมแสดงจุดยืน ไม่เอากาสิโน ทะลุหลักหมื่นไปแล้ว สะท้อนความรู้สึกของผู้คนต่อนโยบายยกการพนันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เปรียบเหมือนเสียงของศีลธรรมที่ประชาชนสะท้อนกลับไปยังรัฐบาล

ธนากร คมกฤส เลขาธิการรณรงค์หยุดพนัน เคยให้ความเห็นในประเด็นนี้ไว้ว่า สิ่งที่ต้องจับตา คือ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ เพราะร่างเดิมที่กระทรวงการคลังรับฟังความเห็นประขาชนมีช่องโหว่อยู่มาก

โดยยกตัวอย่างว่า เดิมระบุจะใช้ สิงคโปร์โมเดล แต่ร่างกฎหมายกลับลดสเปกองค์ประกอบต่าง ๆ ของสถานบันเทิงครบวงจรทั้งหมด เช่น โรงแรมไม่ต้องห้าดาว ห้างสรรพสินค้า และอื่น ๆ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ และจะมีขนาดใดก็ได้ เพราะกฏหมายเปิดช่องไว้อย่างหลวม ๆ

เลขาธิการรณรงค์หยุดพนันตั้งข้อสังเกตุว่า นโยบายเอ็นเตอร์เทนฯ อาจไม่สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างที่คิด เขาชี้ว่า คณะกรรมการเอ็นเตอร์เทนฯมีนายกฯเป็นประธาน มีอำนาจแทบทุกอย่าง ตั้งแต่การอนุมัติว่าจะให้ตั้งที่จังหวัดใด โดยไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ ให้ตั้งกี่แห่งก็ได้ ไม่ต้องมีการประมูล รวมทั้งจะเก็บภาษีอัตราเท่าไหร่ กฎมายไม่ได้ระบุเอาไว้ ทั้งหมดอยู่ในอำนาจของกรรมการชุดนี้ ที่นายกฯเป็นประธาน เขาเปรียบรูปแบบการจัดการดังกล่าวว่า เหมือนตีเช็คเปล่าให้คณะบุคคลคณะเดียวตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติ  

ตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลประกาศเดือนมีนาคมนี้ ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนฯ จะเสนอเข้าสภาฯ จากนั้นประมาณไตรมาสแรกปี 2569 กฎหมายมีผลบังคับปีเดียวกัน ประกาศเงื่อนไขการลงทุน และคาดว่าปี 2571 หรืออีก 3 ปีเศษประเทศไทยจะมี “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโน 5%“ ควบคู่ไปกับพนันออนไลน์          

ถ้าไปถึงจุดนั้น โฉมหน้าของเมืองเทวดาจะเป็นเช่นไร?

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

2568 จีดีพีทะลุ 3% พูดง่ายทำยาก

แก้ พ.ร.ก.โจรออนไลน์…อย่าเป็นแค่เสือกระดาษ

คุณสู้เราช่วย จะส่งเสริมให้ คนเบี้ยวหนี้?

×

Share