Share on
×

Share

WHA Group กางโรดแมพแผนธุรกิจ ตั้งเป้ารายได้ 5 ปีแตะ 150,000 ล้านบาท

การมองว่าวิกฤติและความท้าทายเป็นตัวสร้างโอกาสและการมองหาสิ่งใหม่ ๆ จะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างดี เฉกเช่นที่ผู้นำทัพ WHA Group เน้นย้ำถึงแนวคิดดังกล่าวระหว่างการแถลงทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะสิ่งที่คนทั้งโลกกังวลใจในนโยบายของทรัมป์ 2.0 เรื่องสงครามการค้า ซึ่ง WHA กลับมองว่าจะส่งผลดีให้กับประเทศไทยเพราะนักลงทุนจากจีนแห่ย้ายฐานมาไทย พร้อมประกาศแผนธุรกิจ 5 ปี ตั้งเป้ารายได้รวม 150,000 ล้านบาทผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลักรวมน้องใหม่ Mobility ชูกลยุทธ์มุ่งรักษาความเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจและมองหาโอกาสใหม่ ๆ

ชี้นโยบายทรัมป์ 2.0 ดึงนักลงทุนเข้าไทยเพิ่ม

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group มองว่า ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการลงทุนขยายธุรกิจที่สำคัญของ บริษัทฯ จากปัจจัยหนุนด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจจะยิ่งทวีความเข้มข้น หลังจากการกลับมาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ที่อาจจะช่วยสร้างโอกาสการลงทุนให้เกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยด้วยพื้นที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ การเป็นศูนย์รวม Supply Chain ที่ครบวงจร ความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค ความมั่นคงทางด้านพลังงาน รวมถึงพลังงานหมุนเวียน แรงงานที่มีคุณภาพ นโยบายการส่งเสริมจากภาครัฐ ที่เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์ สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ คลาวด์เซอร์วิส

หลังจากที่ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการและประกาศนโยบายออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนมายังประเทศไทยชัดเจนขึ้น

“สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาน่าจะเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะได้รับประโยชน์ เพราะไทยวางตัวเป็นกลางและพร้อมต้อนรับการลงทุนจากทั้งสองประเทศ” จรีพรกล่าวระหว่างการแถลงทิศทางธุรกิจของ WHA Group

สำหรับนักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนเพิ่มส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยานยนต์ EV แบตเตอรี่ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี

จรีพร เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทฯ มีการเจรจากับนักลงทุนกว่า 100 ราย ซึ่งแต่ละรายก็เจรจาซื้อขายที่ดิน 400-500 ไร่ ส่วนแนวโน้มราคาที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม เรามีการปรับราคาที่ดินขึ้นเฉลี่ย 20-30% จากเดิม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้มีแผนการลงทุนด้านนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ก็มีซื้อที่ดินไว้แล้ว 13,000 ไร่ และก็ยังมีเป้าหมายที่จะซื้อเพิ่ม

4 เมกะเทรนด์ + 4 กลยุทธ์ในปี 2025

WHA ดำเนินธุรกิจด้วยการจับเมกะเทรนด์ 4 อย่างคือ

  1. Geopolitics
  2. Sustainability and Climate Change
  3. Technology
  4. Donald Trump

สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจปี 2025 นั้น จรีพรกล่าวว่าWHA Group ยังคงดำเนินงานตาม 4 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย

  1. เร่งขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในประเทศและตลาดภูมิภาค
  2. นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น New S-Curve ให้กับองค์กร
  3. มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
  4. พัฒนายกระดับองค์กรในทุกด้านให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง

โรดแมพธุรกิจ 5 ปี

จรีพร กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 5 ปีที่ 150,000 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์หลักในการขยายความเป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจร นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัลโซลูชัน ด้วยการส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ครบวงจร ก้าวสู่การเป็นการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ตลอดจนการนำศักยภาพขององค์กรไปสร้างการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน และเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงทุกมิติ สอดคล้องกับพันธกิจ “WHA: We Shape the Future”

สำหรับแผนการดำเนินงานใน 5 ปี (2025 -2029) WHA Group เตรียมความพร้อมเพื่อการขยายและสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว ด้วยการอัดงบลงทุนกว่า 119,000 ล้านบาท วางแผนสร้างรายได้ให้เติบโตประมาณ 2.9 เท่าจากปี 2024 และมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนน้อยกว่า 1.2 เท่า  โดยปี 2025 คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้และส่วนแบ่งกำไรกว่า 20,000 ล้านบาท

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ จรีพรกล่าวแนะนำกลุ่มธุรกิจที่ 5 ที่เป็นน้องใหม่ของกรุ๊ป นั่นคือ Mobility โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ Mobilix ซึ่งได้เปิดตัวในปี 2024 ซึ่งประกอบด้วย 3 บริการหลัก คือ บริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และ Mobilix ซอฟต์แวร์ โซลูชัน แพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะอันทันสมัยสำหรับจัดการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

จรีพร เน้นว่าเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญเพราะเป็นธุรกิจแห่งอนาคตและเป็นเทรนด์ของโลก โดย WHA ตั้งเป้าเติบโตไว้สูงมากในปี 2028-2029 เมื่อมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ทั้งสถานีชาร์จและโมเดลรถยนต์

เป้าหมายของ 5 ฮับธุรกิจปี 2025

เป้าหมายของ 5 ฮับธุรกิจปี 2025

ธุรกิจโลจิสติกส์: วางกลยุทธ์ในการขยายการเติบโตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนาม ในประเทศไทยมุ่งขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พื้นที่ EEC และเมืองรอง สำหรับเวียดนาม เน้นรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เช่น อีคอมเมิร์ซ สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก

เป้าหมายปี 2025 คือการเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นประมาณ 3,309,000 ตารางเมตร มีโครงการให้เช่าพื้นที่ใหม่ประมาณ 200,000 ตารางเมตร และมีแผนการขายสิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART รวมทั้งสิ้นประมาณ 70,000 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท

ธุรกิจโมบิลิตี้: Mobilix ตั้งเป้าให้บริการเช่ารถ EV จำนวนทั้งหมด 20,000 คัน ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยในปี 2025 คาดว่าจะมีรถ EV ภายใต้การบริการเช่ารถมากกว่า 1,700 คันเพิ่มขึ้นจาก 318 คันในปี 2024

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม: มุ่งรักษาความเป็นผู้นำในประเทศไทย และขยายธุรกิจในเวียดนาม รวมทั้งมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่น ๆ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินรวม 2,350 ไร่ ทั้งในไทยและเวียดนาม เน้นการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มุ่งมั่นพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (Smart Industrial Estates) อย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็นพันธมิตรที่ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจร เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

ณ สิ้นปี 2024 บริษัทฯ มีทั้งหมด 15 นิคมอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ในไทย 14 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง

ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ): ตั้งเป้ายอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำรวมปี 2025 ที่ประมาณ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นภายในประเทศประมาณ 132 ล้านลูกบาศก์เมตร และในเวียดนามประมาณ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร มุ่งเน้นธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม โดยตั้งเป้าที่ประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในประเทศไทย มุ่งเน้นการขยายตัวตามการเติบโตของนิคมอุตสาหกรรม โดยการสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในการหาแหล่งน้ำดิบอย่างต่อเนื่อง ขยายการผลิตน้ำที่มีมูลค่าเพิ่ม พร้อมหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจในพื้นที่นอกนิคมอุตสาหกรรม WHA ส่วนที่เวียดนาม วางแผนขยายธุรกิจน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสียเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ในการพัฒนาประสิทธิภาพโครงการสาธารณูปโภคด้านน้ำที่ได้เข้าไปลงทุน

ธุรกิจไฟฟ้า: เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในไทยและนอกประเทศ โดยในไทยมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff และโครงการ Direct PPA เป็นต้น สำหรับเวียดนาม ได้เริ่มดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการไมโครกริด ที่นิคมเขตอุตสาหกรรม WHA Smart Technology Zone 1 ในจังหวัดทัญฮว้า (Thanh Hoa) เฟส 1 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2026 และมุ่งเน้นต่อยอดการขยายธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปอีกด้วย

ธุรกิจดิจิทัล: ยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ใน WHA Group ผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น Artificial Intelligence, Internet-of-Thing โดยในปัจจุบันมีโครงการ AI Transformation ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 12 โครงการ ได้แก่ Drone Inspection Solution และ IoX Platform for Solar

WHA Digital ยังหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ จากการพัฒนาแพลตฟอร์ม ได้แก่ Mobilix แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับจัดการยานพาหนะไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยได้ตั้งเป้าหมายสำหรับยอดการใช้งานแพลตฟอร์มที่ประมาณ 900 คัน ภายในปี 2025 และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,000 คัน ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายในการพัฒนา 5 แอปพลิเคชันใหม่พร้อมให้บริการภายใน WHA Group ภายในปีนี้

WHA Group กางโรดแมพแผนธุรกิจ ตั้งเป้ารายได้ 5 ปีแตะ 150,000 ล้านบาท

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Block Mountain CNX 2025 อัปเดตเทรนด์ Blockchain และ Web3 ที่น่าจับตามอง

ความท้าทายและโอกาสในการเปลี่ยนแปลงการศึกษาของประเทศไทย

แก้ไขโลกรวน อย่าให้เป็นเรื่องจวนตัว

×

Share

ผู้เขียน