Share on
×

Share

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มี ‘ไทยเทา’ เอี่ยวด้วยหรือไม่?

แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่ง หลังเดินทางถึงไทย ต่อภารกิจเดินทางเยือน สาธารณรัฐประชาชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยยืนยันซ้ำว่า สี จิ้งผิง ประธานาธิบดีจีน เอ่ยปากชมเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า สิ่งที่ประเทศไทยทำนั้นเป็นการตัดสินใจเด็ดขาด เป็นสิ่งที่น่าชื่มชม

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปจีนเพียง 1 วัน นายกฯ สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ให้ตัดกระแสไฟฟ้าที่ขายให้ฝั่งเมียนมา ในจุดที่ถูกระบุว่าเป็นที่ตั้งของของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทันที

จากนั้นในเย็นวันเดียวกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานได้มีมติให้ตัดกระแสไฟฟ้าสัญญาณอินเตอร์เน็ตและ งดขายน้ำมันให้ในพื้นที่ 5 จุดบริเวณชายแดนไทย – เมียมมา เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ โดยให้ดำเนินการทันทีตอน 9.00 น.ของวันรุ่งขึ้น (5 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของภารกิจเยือนจีนของนายกฯ 

สำหรับ 5 จุดที่ไทยขายกระแสไฟฟ้าให้ฝั่งเมียมมา ประกอบด้วย หนึ่ง – จุดซื้อ-ขายเมืองพญาตองซู รัฐมอญ ติดด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี สอง – บ้านเหมืองแดง เมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉาน สาม – บริเวณสะพานมิตรภาพไทย -พม่า เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน สี่ – บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า (2) อ.เมียววดี รัฐกะเหรี่ยง และ ห้า – บริเวณบ้านห้วยม่วง- เมียววดี รัฐกะเหรี่ยง

การที่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลายเป็นวาระด่วนจี๋ที่สุดของรัฐบาลเพราะเกี่ยวโยงกับภารกิจเยือนจีนของนายกฯ โดยตรง ที่ต้องกล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับประธานาธิบดีสี หลังจีนส่ง หลิว จงยี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะมาไทยเพื่อหารือเรื่องแก๊งจีนเทากับไทย

ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง ฯ หลิวคนนี้ มีสมญาว่า มือปราบจีนเทา เดินทางมาไทยระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ โดยเข้าหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายแห่ง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม เดินไปสังเกตการณ์ด่านแม่สอด จังหวัดตาก ชายแดนฝั่งเมียวดี และเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ก่อนเดินทางกลับจีนได้เข้าพบรองนายกฯภูมิธรรม ซึ่งตามรายงานข่าวระบุพบกันอย่างไม่เป็นทางการ ตอนเย็นของวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์

ระหว่างที่มือปราบจีนเทาอยู่ในไทย คงต้องลุ้นตัวโก่งว่า สิ่งที่มาขอความร่วมมือจากไทยจะสำเร็จหรือไม่ เพราะช่วงเวลาเดียวกันนั้น อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กับรองนายกฯ ภูมิธรรม ได้สื่อสารโต้กันไปมาแบบตีปิงปอง ว่าด้วยเรื่องใครมีอำนาจสั่งตัดกระแสไฟฟ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขายให้ฝั่งเมียมมากันแน่ ก่อนที่นายกฯ สั่งการที่ประชุมครม.ให้ตัดกระแสไฟฟ้าได้ทันทีตามที่กล่าวข้างต้น     

ตามรายงานข่าวระบุว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง ฯ หลิว ขอความร่วมมือจากไทย 4 เรื่องด้วยกัน คือ หนึ่ง – ตัดกระแสไฟฟ้าและสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กระทำความผิดฝั่งเมียนมา สอง – ให้ไทยช่วยเจรจากับชนกลุ่มน้อยที่ควบคุมพื้นที่ดบริเวณติดชายแดนไทย ให้ปล่อยตัวชาวจีนที่ถูกหลอกไปทำงานกอ้างลับไทย ข่าวอ้างว่าตัวเลขอาจสูงถึ 5,000 คน สาม – ตั้งศูนย์ประสานงานร่วมกันบริเวณชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก และสี่ – ขอให้ไทยจับกุมชาวจีนที่เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งคาดว่ามีอยู่ไม่น้อยกว่า 50,000 คน

รองนายกฯ ภูมิธรรมบอกกับสื่อว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมั่นคงฯ หลิวมาหารืออย่างไม่เป็นทางการ ว่าเขามีข้อมูลเยอะไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องเพราะจีนได้รับความเสียหายอย่างมาก นอกจากนี้ จีนอยากให้ไทยช่วยตัดเส้นทางลำเลียง เพื่อช่วยสกัดทุกทาง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่นั้นคงต้องพิจารณา (มติชน 5 ก.พ. 68)

ตอนนี้ไทยตัดกระแสไฟฟ้าและสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้ว รองนายกฯภูมิธรรม บอกว่าขอดู 6 เดือนก่อนตัดสินใจว่าจะเดินยังไงต่อ แต่เชื่อว่ากลุ่มจีนเทาที่มีถึง 36 กลุ่มที่เข้าไปตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ฝั่งเมียวดีคงไม่หมดฤทธิ์ง่าย ๆ เพราะมีเงินเทา ๆ สะสมจากการหลอกลวงเพื่อนมนุษย์เหลือคณานับ

เฉพาะประเทศไทย ข้อมูลที่อ้างกันในวงประชุมสมช. ก่อนมีมติตัดกระแสไฟฟ้าที่ขายให้ฝั่งเมียมมาระบุว่า มีคนไทยตกเป็นเหยื่อ 557,500 ราย สูญเสียเงินกว่า 68,000 ล้านบาทหรือตกวันละ 80 ล้านบาท

น่าติดตามว่า ท่านประธานสภาความมั่นคงจะขยายผลจากข้อมูลและเบาะแสที่มือปราบจีนเทามอบให้ โดยเฉพาะเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้ลึกขนาดไหนและสามารถโยงถึง ไทยเทา ๆ ด้วยหรือไม่  

ผู้เขียน: “ชญานิน ศาลายา” เป็นนามปากกาของ “คนข่าว” ที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของวัฎจักรเศรษฐกิจตลอดช่วง 4 ทศวรรษเศษ

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

2568 จีดีพีทะลุ 3% พูดง่ายทำยาก

ถ้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์มา โฉมหน้าเมืองเทวดาจะเป็นเช่นไร?

ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 วาระตลอดชาติ…

นโยบายเศรษฐกิจ ‘แจกเงิน’

×

Share