InsureX by Priceza Money จัดงานอัปเดตเทรนด์และแนวโน้มในอนาคตของตลาดรถยนต์และประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทยปี 2568 ในงานชื่อ InsureX FORECAST 2025 : THE NEXT ERA OF ‘CAR INSURANCE’
ในเซสชันแรก InsureX ร่วมมือกับ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เล่าภาพรวมของตลาดรถยนต์ปี 2024 และแนวโน้มในปี 2025 โดย ฐิตา เภกานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส จาก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ
จากการวิจัยของ SCB EIC กล่าวว่า ‘ตลาดรถยนต์ปี 2025 มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง โดยปัจจัยฉุดรั้งยังคงมาจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน’
ย้อนไปในปี 2024 ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยหดตัวลงทั่วประเทศสูงถึง -26% โดยนับว่าเป็นยอดขายรถยนต์ต่ำสุดในรอบ 15 ปี โดยประเภทรถยนต์ที่ยอดขายหดตัวมากที่สุดคือ ‘รถกระบะ’ หดตัวลงถึง -38%
ต่อมาคือ ‘รถเก๋งทั่วไป’ หดตัวลง -23% สวนทางกับรถกลุ่ม ‘SUV’ ที่ขยายตัวต่อเนื่องและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023

รถกลุ่ม ‘SUV’ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับ ‘รถกระบะ’ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดลดลง

นอกจากนี้สัดส่วนยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งราคาต่ำกว่า 7 แสนบาทก็ยังปรับลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยทาง SCB EIC คาดว่ามาจาก 2 สาเหตุ
- สถาบันการเงินเข้มงวดการให้สินเชื่อกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
- กระแสนิยมในกลุ่มรถ Eco car และ City car ลดลงอย่างต่อเนื่อง

และ SCB EIC ยังประเมินว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2025 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อนที่ -2%
- คาดการณ์ยอดขายรถกระยะ และ SUV ในปี 2025 = 333,000 คัน (-4.4%YOY)
- คาดการณ์ยอดขายรถยนต์นั่งในปี 2025 = 228,000 คัน (+1.8%YOY)
ปัจจัยหลักมาจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ เพราะสถาบันการเงินมีความกังวลต่อการเสื่อมมูลค่าของหลักทรัพย์คำ้ประกันหมวดยานยนต์ที่ยังปรับลดลงต่อเนื่อง และ สถานบันการเงินยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอีกด้วย
เพิ่มเติมทิศทางของตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้า (xEV) ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องและถือเป็นแรงส่งหลักของตลาดรถยนต์ไทย โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่ง ‘ไฮบริด’ ในปี 2024 เติบโตถึง 42% (136,000 คัน) สัดส่วนยอดขายแต่ละค่ายรถยนต์ได้แก่

แต่ในกลุ่มรถยนต์ BEV ในปี 2024 หดตัวจากยอดขายที่ปรับลดลง -10.2% (68,000 คัน) ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันด้านราคาที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป
SCB EIC คาดว่ากลุ่มรถยนต์นั่ง xEV ในปี 2025 จะมีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นต่อเนื่องไปอยู่ที่ 40% เพราะได้รับแรงส่งจาก Hybrid ที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่รถ BEV ก็จะกลับมาฟื้นตัวได้บ้างเช่นกัน

และอีก session ที่น่าสนใจคือหัวข้อ CAR INSURANCE REPORT 2025 ข้อมูลการเลือกและพฤติกรรมลูกค้าประกันรถยนต์ โดยคุณสิรวิชญ์ ฉายะวาณิชย์ Head of Priceza Money
จากการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของเว็บตัวกลางเปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่าง Priceza Money พบว่ากลุ่มคนที่เข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์มากที่สุดในตอนนี้คือกลุ่มคนอายุ 35-44 ปี เพราะเป็นกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของรถด้วยตัวเอง ไม่ใช่กลุ่มอายุน้อยที่ส่วนใหญ่ ‘พ่อแม่ผู้ปกครอง’ จะเป็นคนดูแลเรื่องประกันภัยรถยนต์ให้ นอกจากนี้กลุ่มคนที่ใช้บริการเว็บเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์มีสัดส่วนอาศัยอยู่ใน ‘กรุงเทพมหานคร’ สูงถึง 53.5% จากจังหวัดทั้งหมดทั่วประเทศ
ทาง Priceza Money ได้เล่าถึงแนวโน้มกลุ่มรถยนต์ที่เข้ามาเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ใน Priceza Money มากที่สุด 10 อันดับแรกได้แก่ TOYOTA 29%, HONDA 19%, ISUZU 16%, MAZDA 7%, MITSUBISHI 6%, NISSAN 6%, FORD 4%, MG 3%, SUZUKI 3% และ CHEVROLET 2%
และยี่ห้อรถยนต์ที่มีอัตราเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์เพิ่มขึ้นมากที่สุดในเว็บเปรียบเทียบประกันอย่าง Priceza Money ได้แก่ BYD ปรับตัวเพิ่มขึ้น 821%YOY, NETA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1333%YOY ORA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 209%YOY
ทาง Priceza Money จึงสรุปเนื้อหาออกมาว่า ‘การเข้ามาของรถ xEV ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาพรวมรถยนต์ในตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นการเข้ามาแทนที่รถยนต์น้ำมันเดิมมากกว่า’ จากการปรับตัวลดลงของยี่ห้อรถที่เน้นรถยนต์น้ำมันเป็นหลักในหลายๆยี่ห้อ
และในหัวข้อต่อมา Priceza Money ได้พูดถึงเรื่อง ‘พฤติกรรมการซื้อประกันของผู้บริโภค’ ว่าคนไทยจะเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์มากที่สุดในตอนที่อายุรถครบ 1 ปีและจะเข้ามาเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์น้อยลงเรื่อยๆเมื่อรถอายุมากขึ้น
แต่จะมีอีก 2 ช่วงที่คนส่วนใหญ่จะกลับมาเปรียบเทียบประกันรถยนต์คือเมื่อ รถอายุครบ 5 ปี และ รถอายุครบ 10-12 ปี
โดยเมื่อรถยนต์อายุครบ 5 ปี จะมีอัตราเลือกประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ถึง 87% จากทั้งหมดด้วยเหตุผลหลักๆ 3 ข้อ ได้แก่
- ประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์มีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่มาก (เฉลี่ย 10,000 บาท)
- บริษัทประกันส่วนใหญ่รับประกันแบบซ่อมศูนย์ถึงแค่ 4 ปี
- บริษัทประกันที่รับประกันแบบซ่อมศูนย์เกิน 4 ปี ไม่ได้มีชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือมากพอ
แต่ ‘รู้ใจประกันภัย’ ที่ยังรับประกันซ่อมศูนย์ในรถอายุเกิน 5 ปีก็ได้สัดส่วนลูกค้าเพิ่มไปถึง 35% จากทั้งหมด จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่บริษัทประกันภัยอื่นๆจะเข้าไปเล่นในตลาดที่คู่แข่งน้อยแบบนี้
ปีก็ยังมีอัตราการเลือกประกันชั้นอื่นๆอยู่แค่ 57% แสดงให้เห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญและสนใจประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่มากถึงแม้รถยนต์จะอายุมากกว่า 15 ปีแล้วก็ตาม โดย Priceza Money วิเคราะห์ไว้ 2 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ยังสนใจประกันชั้น 1 อยู่
- เมื่ออายุรถเยอะขึ้น ราคาประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+ จะมีส่วนต่างไม่มากแล้ว (ประมาณ 5,000 บาท)
- ยังไม่ค่อยมีการให้ความรู้เรื่องประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ มากเท่าที่ควร ทำให้คนส่วนใหญ่ยึดติดกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองทุกกรณีไว้ก่อน
และอีกหัวข้อที่ Priceza Money นำมาวิเคราะห์คือ ‘เกณฑ์การเลือกบริษัทประกันภัย’ ที่ปัจจุบันหลักการเลือกคือ ‘เลือกจากชื่อเสียงบริษัทประกัน มาก่อน ราคาประกัน’
โดยบริษัทประกันที่ถูกเลือกมากที่สุดในปี 2024 คือ ‘ธนชาตประกันภัย’ และ ‘วิริยะประกันภัย’ ซึ่งเป็น 2 บริษัทประกันชั้นนำที่หลายๆคนไว้วางใจ แต่เมื่อเปรียบเทียบราคากัน ‘ธนชาตประกันภัย’ มีราคาเฉลี่ยที่ต่ำกว่า ‘วิริยะประกันภัย’ ในรถหลาย ๆ รุ่นทำให้ถูกเลือกมากที่สุดเป็นที่ 1

แนวโน้มนี้จะไปสอดคล้องกับ Marketing Trends 2025 สำหรับกลุ่ม Gen Y อายุ (29-45 ปี) ที่บอกว่าคนกลุ่มนี้ต้องการ ‘คุณภาพ’ และ ‘คุณค่า’ สูงเมื่อเปรียบเทียบกับ Gen อื่นๆ โดยพบว่าเหตุผลในการซื้อ Luxury Products สำหรับผู้บริโภค Gen Y คือ
- 79% ซื้อเพราะวัสดุคุณภาพดี
- 78% ซื้อเพราะความทนทาน
- 69% ซื้อเพราะ Value for money
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
G-Able ปักหมุด Tech Enabler มุ่งสู่ One-Stop IT Solution Provider ตั้งเป้ายอดขายหมื่นล้านบาท