Share on
×

Share

เปิดแนวคิดผู้นำแบบ New Gen ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

ในมุมมองของผู้นำ สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอด คือการมองอนาคตมองโอกาสให้ออก เพื่อตัดสินใจนำพาธุรกิจไปในทางที่ดีขึ้นหรืออยู่รอด แต่กาลเวลาที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้ประกอบการในแต่ละสมัยมีความคิดที่แตกต่างกัน ปัจจุบันผู้ประกอบการอายุน้อยมีมากขึ้น วิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจก็เปลี่ยนไปเช่นกัน การเปิดรับแนวคิดใหม่ ๆ จะช่วยให้ธุรกิจที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงได้เจอสัญญะที่ดีนอกกรอบ เพื่อปรับให้ธุรกิจเติบโตได้ดีเช่นกัน

Future Trend ได้เปิดเวทีแชร์ประสบการณ์ของผู้ประกอบการในหัวข้อ “The Next Frontier of Business: Boomer to Beta (B2B) in Entrepreneurship Trends” แนวทางที่จะทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นเทรนด์ได้รวดเร็วและชัดเจนขึ้น เพื่อเตรียมปรับตัวในยุคของการเปลี่ยนแปลง โดย CK Cheong Fastwork, ทนงค์ศักดิ์ แช่เอี้ยว YUEDPAO และสุรนาม พานิชการ Tofusan จะมีประเด็นอะไรบ้างไปดูกันในบทความนี้เลย

การ Disruption ไม่ได้ทำให้ตัวตนของแบรนด์จืดจางลง

แม้ว่าทั้ง 3 แบรนด์จะมีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่ทุกแบรนด์ล้วนต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาท้าทายความสามารถกันทั้งสิ้น อย่างที่ช่วงนี้เจอความท้าทายหลักเรื่องของเทคโนโลยี หรือความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจเข้ามาถาโถมแต่แบรนด์ Fastwork, YUEDPAO และ Tofusan มีสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยนั่นคือ วิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ

CK Cheong จาก Fastwork ตั้งใจหนักแน่นในวิสัยทัศน์มาตั้งแต่เริ่มก่อนตั้ง Fastwork โดยตั้งใจจะทำให้ Fastwork เป็น Everything source of service ของคนไทย อยากกระจายรายได้ไปในทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ให้ทุกอาชีพเข้าถึงการจ้างงานได้แม้จะทำงานอยู่ที่ไหนก็ตาม ลดการกระจุกความเจริญไว้แค่ในกรุงเทพมหานคร

แนวคิดนี้ CK ริเริ่มจากการตั้งข้อสังเกตพื้นที่ในต่างประเทศที่ไม่มีการแบ่งแยกเรื่อง “พื้นที่ต่างจังหวัด” ทุกภาคมีความเจริญใกล้เคียงกัน อย่างในอเมริกาแต่ละรัฐก็จะมีความโดดเด่นในเชิงธุรกิจที่แตกต่างกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก “ผู้ประกอบการ” ที่ตั้งใจพัฒนาพื้นที่หรือรัฐของตนเองให้ดีขึ้น เสมือนการพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ประเทศไทยก็ควรเป็นเช่นกัน CK จึงตั้งใจให้ Fastwork เป็นตัวสื่อกลางที่จะสร้างผลลัพธ์นี้ให้เกิดขึ้นนั่นเอง

อีกอย่างหนึ่งที่เข้ามากระทบคือเรื่องลดค่าคอมมิชชันจาก 17% เป็น 10% เพราะปรับธุรกิจที่เข้าใจผู้ใช้งานมากขึ้นไปอีก ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ ผลักดันคนข้างในประเทศให้ได้ เพราะผู้ประกอบการต้องทุ่มทุกอย่าง ให้เครื่องบินขึ้นบินได้ อนาคตอยากจะพัฒนาให้ผู้ใช้งาน ค้นหาอะไรต้องเจอ! นับเป็นแรงบันดาลใจใหม่ในการทำธุรกิจในอนาคตของ CK ที่เชื่อว่า “ลองทำไปเถอะ ถ้าไม่เวิร์กมันยังได้ข้อมูลใหม่ เเล้วจะรู้ว่าคำถามต่อไปคืออะไร เราจะเก่งขึ้น เข้าใจลูกค้ามากขึ้น”

ด้านทนงค์ศักดิ์ แช่เอี้ยว จาก YUEDPAO เริ่มต้นจากกางเกงบล็อกเซอร์ ก่อนจะพัฒนามาเป็นแบรนด์ที่เด่นเรื่องเสื้อยืดแต่ไม่ย้วย YUEDPAO ตั้งใจจะเป็นโกลบอลแบรนด์ให้ได้จากการพัฒนาเสื้อยืดให้ตอบโจทย์กับคนทุกวัย แม้หลายอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่จะทำให้อยู่รอดได้คือ การมองวิกฤติให้เป็นโอกาส จับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงให้ทันและเริ่มก่อนใคร

YUEDPAO เริ่มเห็นเทรนด์การขายออนไลน์มาประมาณครึ่งปี 2024 และได้เริ่มทำการสื่อสารออนไลน์ การสื่อสารด้วยคอนเทนต์ร่วมกับ KOL ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ เริ่มใช้การโฆษณาด้วยการเกาะ Painpoint ของลูกค้าเรื่องเสื้อยืดที่ชอบย้วย และเริ่มทำช่องทางการขายของแบรนด์เองโดยพึ่งพาแพลตฟอร์ตอีคอมเมิร์ชให้น้อยที่สุด เพราะมองเห็นว่าค่าธรรมเนียมจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน จึงได้เริ่มสร้างช่องทางขายผ่านเว็บไซต์ของตนเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้แบรนด์เติบโตนำหน้าหลาย ๆ แบรนด์และสร้างกำไรได้แม้ในช่วงวิกฤติก็ตาม สิ่งสำคัญ คือการตั้งใจทำให้สินค้าเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด

สุรนาม พานิชการ จาก Tofusan สร้างแบรนด์อาหารที่มั่นใจว่าพ่อแม่ต้องทานได้ คนทำอาหารตั้งมีความมั่นใจว่าสินค้าที่ทำออกมาขายมีคุณภาพที่ดีพอ ที่จะให้คนที่รักรับประทานได้ น้ำเต้าหู้ของแบรนด์ Tofusan ไม่ผสมน้ำมันพืชต่างกับเจ้าอื่น ๆ ในตลาดเพราะเหตุผลนี้

แม้หลายอย่างจะเข้ามากระทบกระทั่งการดำเนินธุรกิจ แต่สุรนามเชื่อว่า ถ้ายึดถือวิสัยทัศน์ แรกเริ่มของแบรนด์ไว้ได้จะยิ่งทำให้ธุรกิจเราโตได้อย่างยั่งยืน “การคิดที่มากพอ บวกกับการลงมือทำอย่างเข้มข้น จะสร้างผลลัพธ์ได้มหาศาล” นอกจากความตั้งใจที่แน่วแน่นการรับเอาความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้งก็สำคัญกับ Tofusan เช่นกัน เพราะต้องเก็บฟีตแบคเพื่อพัฒนาการสื่อสารอยู่เสมอ ทำให้ลูกค้ารู้ถึงคุณค่าของสินค้าเพื่อสร้างยอดขายที่มั่นคงให้ได้

จับเทรนด์แล้วเริ่มลงมือทำก่อนใคร ช่วยสร้างทางลัดและทางรอดให้ธุรกิจได้มหาศาล

อย่างที่ทราบกับดีว่าการจับเทรนด์ให้ได้ และพร้อมปรับตัวรับมือจะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดแม้เจอความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ประสบการณ์การทำธุรกิจของทั้ง 3 แบรนด์ที่นำมาแชร์ร่วมกันได้แสดงให้เห็นแนวทางการปรับตัวที่ได้ผล เพื่อเป็นประโยชน์กับนักธุรกิจหลาย ๆ คน

CK มองว่า “ความมั่นคง” ที่เคยเชื่อถือกันในอดีตอาจไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะล่าสุด ข่าวการไล่บุคลากรทางราชการของสหรัฐอเมริกา ก็มีให้เห็นอาชีพข้อราชการไม่ใช่อะไรที่มั่นคงอีกต่อไป สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไปสิ่งที่เหล่านักธุรกิจหรือพนักงานเองก็ตระหนักคือการปรับตัวให้ไว เตรียมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ในทางการจับเทรนด์ให้กับการดำเนินธุรกิจก็เช่นกัน อย่ามองเพียงความมั่นคง แต่ให้มองไปถึง “จุดแข็ง” ที่ธุรกิจมี ธุรกิจตั้งใจจะส่งออกอะไรที่มีคุณค่าต่อผู้บริโภค กำไรเป็นเพียงส่วนหนึ่ง

หัวใจหลักที่จะทำให้ธุรกิจไม่ตายคือ การส่งออกจุดแข็ง อย่าเช่น ประเทศเกาหลีเน้นส่งออกวัฒนธรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล เป็นจุดขายหลักของประเทศ ที่ผู้อื่นแข่งขันได้ ประเทศญี่ปุ่นก็โดดเด่นเรื่องการส่งออกเทคโนโลยีที่มีคุณภาพทั้งรถยนต์ระดับแบรนด์ชั้นนำหลาย ๆ แบรนด์ที่ส่งออกมาจากประเทศญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งประเทศสิงคโปร์ที่เน้นส่องออกมันสมองของประชากรในประเทศพัฒนาการศึกษาระดับคุณภาพที่ผลิตบุคลากรที่มากความสามารถขึ้นหวังพัฒนาประเทศสิงคโปร์ให้ดีขึ้น ซึ่งก็ทำได้จริงๆ ประเทศไทยเองนอกจากโดดเด่นเรื่องทรัพยากรอาหารแล้วธุรกิจประเภทบริการก็เด่นเช่นกัน น่าจะนำมาเป็นจุดแข็งของประเทศ และ Fastwork ก็คอยสนับสนุนสิ่งนั้นมาโดยตลอด และยิ่งกระแสเทรนด์เรื่องเทคโนโลยีเข้ามา ก็ยิ่งช่วยให้ Fastwork สื่อสารไปถึงทั่วโลกได้อย่างไม่มีจำกัด หนึ่งในแผนพัฒนาคือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแปลงภาษาให้ทั่วโลกเข้าถึงการบริการของคนไทยได้มากขึ้นนั่นเอง

ด้านทนงค์ศักดิ์มองต่างว่าเราต้อง “เริ่มเปลี่ยนตัวเองก่อนที่อะไรอะไรก็ตามจะเข้ามาเปลี่ยนเรา” เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เรา ไม่ถูกบังคับ และจะยังคงคุณค่าที่เราต้องการไว้ ต่างกับการถูกบังคับให้เปลี่ยนซึ่งจะทำให้ความตั้งใจแรกที่เราสั่งสมไว้ถูกลดคุณค่าลง ทางลัดเดียวที่จะทำให้เราผ่านมันไปได้คือการเปลี่ยนให้เร็ว ให้ทันกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และหากได้ถึงขึ้นเปลี่ยนแปลงแล้วจะนำหน้าคู่แข่งไปได้อีก จะยิ่งทำให้ธุรกิจของคุณยิ่งก้าวกระโดด การรับฟังประกอบกับประสบการณ์จะเป็นเครื่องนำทางให้ได้ ตั้งใจลงมือทำอย่างมีวินัยสม่ำเสมอเป็นสิ่งหนึ่งที่ทนงค์ศักดิ์ แนะนำให้ผู้ประกอบการทุกคนควรมี

สำหรับ สุรนามยกตัวอย่างการใช้เทรนด์เพื่อการสร้างสรรค์สินค้าไว้ว่า Tofusan มีหนึ่งใน Lineup สินค้าในเครือแบรนด์คือสินค้า High Protien สินค้านี้เกิดจากการหยิบเทรนด์การทางอาหารของผู้บริโภคมีพัฒนา จากวิจัยตลาดหรือวิจัยผู้บริโภคคนไทย พบว่าผู้บริโภคจะเลือกซื้แสินค้าประเภทอาหารด้วย 3 ปัจจัยคือ สุขภาพ เทคโนโลยี และคุณภาพ คุณสุรนามหยิบ สุขภาพและคุณภาพ ขึ้นมาสร้างสินค้าเพื่อไปวางขายในตลาดจนได้กำไรจากสินค้าจริง ๆ การใส่ใจในกระบวนการทำ กระบวนการสื่อสาร และทำให้ทั้งบริษัทเชื่อที่จะผลิตสินค้าดีๆ ให้กับผู้บริโภคจะทำให้ธุรกิจเกิด Big Change แน่นอน

ผู้ประกอบการที่ดีใน 5 ปีข้างหน้า

CK ทนงค์ศักดิ์ และสุรนาม บอกว่าการจะเป็นผู้ประกอบการที่ดีใน 5 ปีข้างหน้าได้นั้นต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองกล้าตั้งคำถามที่สร้างการพัฒนา กล้าลองอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องรอการเปลี่ยนแปลง Reset วิธีคิดใหม่ Reset Famework ที่ตนเองมีใหม่เพื่อมองให้เห็นโอกาสที่อยู่รอบตัว ตั้งคำถาม ตั้งเป้าหมายให้ชัด อดทน วินัย และโฟกัสความตั้งใจของตนเองหรือแบรนด์! ไกด์ไลน์คือ เวลาจะทำอะไร จะมี 8 รู้ คือรู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้กาล รู้ประมาณ รู้เท่า รู้ทัน รู้การ รู้แก้ ทั้งหมดนี้จะทำให้เราเรียนรู้จากเรื่องที่พลาดและประสบความสำเร็จได้เเน่นอน

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ASOCIO มอบรางวัล 17 องค์กร เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี

รัฐบาลทั่วโลกกุมขมับ หลัง OTT ขยายแสนยานุภาพ 

AWS ชี้ตลาดคลาวด์มีโอกาสโตอีกมาก ปี 68 องค์กรไทยลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์

×

Share

ผู้เขียน