Share on
×

Share

AWC กางแผน 5 ปี ดันมูลค่าทรัพย์สินแตะ 3 แสนล้านบาท โชว์ผลงานปี 67 สร้างสถิติใหม่ 5 นิวไฮ

AWC ประกาศผลประกอบการปี 2567 โตก้าวกระโดด สร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย 5 นิวไฮ สูงสุดในรอบ 5 ปี เร่งเครื่องแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีข้างหน้า ขยายพอร์ตทรัพย์สินดำเนินงานอีก 2 เท่า เตรียมสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องผ่าน 9 โครงการไฮไลต์ ในปี 2568 พร้อมทุ่มงบลงทุนรวมกว่า 22,000 ล้านบาท ประเดิมด้วยการซื้อ “เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล” มูลค่า 8,700 ล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์และ Wellness ย่านรัชดาภิเษก

แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี กับ 3 เป้าหมาย  

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC  แถลงถึงทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2568 ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ภายใต้แนวคิด “Building a Better Future” เพื่อร่วมเสริมศักยภาพให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวยั่งยืนของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ คือ

  1. เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินดำเนินงาน 2 เท่า สู่ระดับ 300,000 ล้านบาท ภายในปี 2572 พร้อมขยายห้องพักรวมสู่ 12,000 ห้อง
  2. สร้างผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 15% จากการเร่งผลักดันศักยภาพของทรัพย์สินที่อยู่ในช่วงดำเนินงานเริ่มต้น (Ramp Up) ให้เข้าสู่ระดับการดำเนินงานปกติ (BAU)
  3. เดินหน้าการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องในฐานะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งเน้นการสร้างจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก ด้วยโครงการคุณภาพระดับแลนด์มาร์ก เสริมศักยภาพความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก และยกระดับมาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ระดับสากล

ชูกลยุทธ์ “GROWTH-LED” สร้างการเติบโตยั่งยืน

สำหรับผลประกอบการปี 2567  AWC มีตัวเลขการเติบโตก้าวกระโดดในทุกมิติ พร้อมสร้างสถิติใหม่ด้วย 5 นิวไฮ สูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแกร่งดังนี้

  1. กำไรสุทธิ 5,850 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 14.6 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน (YoY)
  2. กำไรจากการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจ (BU EBITDA) 11,965 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 11.9 (YoY) 
  3. รายได้เฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Rate: ADR) 5,873 บาทต่อคืน เติบโตร้อยละ 3.8 (YoY)
  4. รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) 4,200 บาทต่อคืน เติบโตร้อยละ 14.8 (YoY) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด 
  5. อัตราผลตอบแทนกำไรจากการดำเนินงานต่อทรัพย์สินถาวร (EBITDA Yield) ของทรัพย์สินดำเนินงานเติบโตสู่ร้อยละ 10.1 โดยมีมูลค่าทรัพย์สินถาวรรวมเติบโตเท่าตัวภายใน 5 ปี สู่มูลค่า 198,726 ล้านบาท

วัลลภา กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทาย แต่ AWC สามารถสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นด้วยกลยุทธ์การเติบโตหรือ GROWTH-LED Strategy ที่เน้นสร้างกระแสเงินสดอย่างแข็งแกร่ง และการพัฒนาโครงการคุณภาพร่วมกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้าง AWC’s Lifestyle Destination หลากหลายโครงการในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วไทย โดย AWC มีรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 21,011 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 10.5  (YoY) จากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจโรงแรม

กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการสร้างกระแสเงินสดแข็งแกร่ง โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ของกลุ่มธุรกิจก้าวกระโดดถึงร้อยละ 31 (YoY) มีอัตราการเข้าพักตลอดปี 2567 เฉลี่ยร้อยละ 72 เติบโตร้อยละ 7 (YoY) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด และมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 4,200 บาทต่อคืน เติบโตร้อยละ 14.8 (YoY) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

จากความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงกว่า 650 ล้านคนทั่วโลกผ่านเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก ส่งผลให้โรงแรมของ AWC มีดัชนีการสร้างรายได้ (Revenue Generation Index หรือ RGI) สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเมื่อเทียบกับโรงแรมในกลุ่มเดียวกันที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว RGI เท่ากับ 195 ส่วนโรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มประชุมสัมมนา RGI เท่ากับ 170 และโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ RGI เท่ากับ 147

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลของ AWC ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกเซ็กเมนต์ โดยในปี 2567 มีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ของกลุ่มธุรกิจเติบโตร้อยละ 12  (YoY) สร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงให้กับบริษัท พร้อมมียอดการปล่อยพื้นที่เช่าใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมามากกว่า 34,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (YoY) โดยบริษัทเดินหน้ายกระดับธุรกิจคอมเมอร์เชียลให้เป็นศูนย์กลางแห่งไลฟ์สไตล์และการทำงานที่ทันสมัย ตอบรับแนวโน้มการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของลูกค้าในยุคใหม่ ขยายพอร์ตโฟลิโอให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับธุรกิจอาคารสำนักงานสู่แนวคิด “Lifestyle Workplace Destination” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เช่า ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอาคารให้เป็นมากกว่าสถานที่ทำงาน

AWC ทุ่ม 1.6 หมื่นล้านบาท ปั้น “เวิ้งนครเกษม เยาวราช” แลนด์มาร์คระดับโลก

ทุ่ม 8,700 ล้านซื้อเลอ คองคอร์ด 

สำหรับกลยุทธ์การเติบโตปี 2568 AWC เดินหน้าเสริมพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวมถึงกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลด้วย 9 โครงการไฮไลต์ พร้อมเงินลงทุนกว่า 22,000 ล้านบาท นำโดยโครงการใหม่ Jubilee Prestige Tower มูลค่า 8,704 ล้านบาทย่านรัชดาภิเษก

AWC เข้าลงทุนใน บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด ซึ่งครอบคลุม อาคารสำนักงานขนาด 45,792 ตารางเมตร และโรงแรมขนาด 407 ห้อง ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ และจะช่วยสร้างกระแสเงินสดได้อย่างทันทีให้กับบริษัท โดย AWC มีแผนพัฒนาโครงการภายใต้ชื่อ Jubilee Prestige Tower ให้เป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ และโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ JW Marriott ที่บริหารงานโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีแผนพัฒนาให้เป็นโมเดล AWC’s Lifestyle Destination ผสมผสาน Wellness และประสบการณ์แบบ Luxury Bleisure หรือ การผสมผสานระหว่างทริปเดินทางเชิงธุรกิจ (Business) และการพักผ่อน (Leisure) พิเศษครั้งแรกของประเทศ พร้อมเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายในปี 2571

วัลลภาเล่าถึงกลยุทธ์ของการลงทุนครั้งนี้ว่า มุ่งเป้าไปที่ High Luxury และดึงกลุ่มลูกค้าที่เป็น Quality Demand จากทั่วโลกมาไทย

“ถ้าเราลงทุนแล้วใส่มูลค่าการลงทุนเข้าไปเพื่อที่จะ Repositioning โครงการ เราจะจับกลุ่มลูกค้าใหม่ และมองเลยว่าเราจะ Uplift อัตราค่าห้องพักได้แค่ไหน เช่น ตอนนี้ห้องพักราคา 2,500 บาท แต่เรทของ AWC อยู่ที่ 5,800 บาท เราก็จะค่อย ๆ ปรับราคาไปจนถึง 7,000 บาท เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมีคุณภาพมาไทย” วัลลภากล่าว

โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกของ AWC ที่ตั้งอยู่บนพื้นย่านรัชดาภิเษกที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ รายล้อมไปด้วยสถานทูต สถาบันการเงิน บริษัทข้ามชาติ และสถานที่ท่องเที่ยว เชื่อมต่อเครือข่ายคมนาคมหลักของกรุงเทพฯ รวมถึงระบบรถไฟฟ้าบนถนนรัชดาภิเษก

สำหรับโครงการไฮไลต์อื่น ๆ ในปี 2568 อาทิ การเปิดโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา โรงแรม แฟร์มอนท์ แบงคอก สุขุมวิท  โครงการ The Empire Wellness ณ อาคาร “เอ็มไพร์” โครงการ ลานนาทีค เดสทิเนชั่น เฟส 1 ณ จังหวัดเชียงใหม่ และการเปิดตัวโครงการ Jurassic World: The Experience ณ  โครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น

“ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเป็นแรงผลักดันให้ AWC เดินหน้ามุ่งมั่นตามพันธกิจ “Building a Better Future” ในการดำเนินธุรกิจที่ร่วมสร้างคุณค่าและเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย พร้อมสนับสนุนประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก และร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้นในทุกมิติต่อไป” วัลลภากล่าว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดตัวเพจ “Wisdom on the House” พื้นที่เรียนรู้ฟรี ที่ใครก็เข้าถึงได้

SCB วาง 3 กลยุทธ์ ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ธุรกิจ Wealth ในปี 69

×

Share

ผู้เขียน