หลักทรัพย์บัวหลวงเผยผลประกอบการปี 2567 มีรายได้รวม 3,068.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 859.2 ล้านบาท เงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ 6,229.5 ล้านบาท ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมการลงทุน
พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการให้บริการทางการลงทุน พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดทุนอย่างถูกต้อง
ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 3,068.7 ล้านบาท โดยมีรายได้จากค่านายหน้า 1,598.7 ล้านบาท ลดลง 11.2% จากปีก่อนหน้า รายได้ค่าธรรมเนียมและการบริการ 224.1 ล้านบาท ลดลง 39.7% รายได้ดอกเบี้ย 751.8 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20.9% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 859.2 ล้านบาท และมีมูลค่าส่วนผู้ถือหุ้น 8,752.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) ขณะเดียวกันบริษัทยังมีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (Net Capital) แข็งแกร่งระดับ 6,229.5 ล้านบาท
“ท่ามกลางความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย หลักทรัพย์บัวหลวงเดินหน้าสร้างสังคมแห่งการลงทุนที่มีคุณภาพ โดยได้เปลี่ยนห้องค้าให้กลายมาเป็นห้องเรียนเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพของเรามาให้ความรู้ภายในงานสัมมนาที่มีการจัดทั้งรูปแบบ Online และ Onsite และอีกหนึ่งเรื่องที่เราให้ความสำคัญ คือ การพัฒนานวัตกรรมการลงทุนที่ออกแบบมาตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในทุกมิติ ควบคู่ไปกับสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด และพร้อมอยู่เคียงข้างเป็น “เพื่อนสนิท คู่คิดนักลงทุน” ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทุกสถานการณ์” พิเชษฐ กล่าว
ด้าน บรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในปี 2568 หลักทรัพย์ บัวหลวงยังคงสานต่อแนวคิด “มั่นคง มั่นใจ มืออาชีพ” ตอกย้ำบทบาทบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทยที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของนักลงทุนอย่างครบถ้วนเพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญเกิดความรู้สึกสบายใจและปลอดภัยในการเข้ามาใช้บริการ
1. “มั่นคง” ปัจจุบันบริษัทมีสถานะทางการเงินที่มีความมั่นคง โดยยืนยันได้จากฐานเงินทุนที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม สะท้อนผ่านมูลค่าส่วนผู้ถือหุ้น 8,752.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567)และยังเชื่อมั่นได้ในฐานะบริษัทหลักทรัพย์ในเครือธนาคารกรุงเทพ ที่มาพร้อมด้วยอันดับเครดิต AA โดย TRIS Rating(ข้อมูล ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2567) ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มลูกค้าบุคคลกว่า 694,000 ราย ที่ไว้วางใจใช้บริการของเรา
2. “มั่นใจ” ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความรู้ด้านการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมด้านการลงทุนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ โดยในส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์การบริการลงทุนนั้น บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจนมีส่วนแบ่งตลาดเป็นลำดับต้น ๆ ในหลายผลิตภัณฑ์ทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants หรือ DW), ตราสารแสดงสิทธิในสินทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR), การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ (Global Investing), หุ้นกู้อนุพันธ์ (Structured Notes) ล่าสุดบริษัทได้ยกระดับการบริการใน Wealth Connex แอปพลิเคชันเชื่อมต่อความรู้และบริการลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยมีบริการส่งข้อความเพื่อแนะนำไอเดียการลงทุนทุกสินทรัพย์ประจำวันทั้งหุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, DR, กองทุนรวม, DW อนุพันธ์ และอื่น ๆ จากทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพพร้อมบริการแจ้งเตือนข้อมูลพอร์ตลงทุนแบบส่วนตัวเฉพาะแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์, รายงานการซื้อขาย, การแจ้งเตือนด้านการเปลี่ยนแปลงราคา, สิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น, สิทธิพิเศษและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อมูลที่แม่นยำและปลอดภัย ครบ จบ ในแอปเดียว
3. “มืออาชีพ” ด้วยปัจจุบันที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกมิติการลงทุนจึงได้พัฒนาขีดความสามารถของผู้แนะนำการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการให้คำปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่าน 26 สาขาทั่วประเทศไทย โดยเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ดีจากผู้แนะนำการลงทุน
มืออาชีพ
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“ทองมา” นำทัพ “พฤกษา” เปลี่ยนเกมรุกตลาดเฮลท์แคร์ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนธุรกิจสุขภาพเป็น 50% ภายใน 3 ปี
“เครื่องบินส่งมอบช้า” ฉุดการบินไทยขยายตลาด ลุ้นนำหุ้นกลับเข้าเทรด มิ.ย.นี้ หลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ