“ภัยไซเบอร์ในวันนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกออนไลน์อีกต่อไป แต่ขยายขอบเขตเข้ามาสู่โครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจในทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีจึงกลายเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่องค์กรต้องบริหารให้สมดุลที่สุด”
นี่คือสิ่งที่ พลสุธี ธเนศนิรัตศัย ผู้อำนวยการ บริษัท บลูบิค ไททันส์ จำกัด สรุปจากประสบการณ์ตรงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ในสนามของการป้องกันและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ ซึ่งในช่วงเวลานั้น เขาเห็นองค์กรไทยจำนวนไม่น้อยต้องจ่ายบทเรียนราคาแพง เพราะเข้าใจผิดว่า “ธุรกิจเราเล็ก ไม่น่าเป็นเป้า” หรือ “มีระบบป้องกันอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหา”
Bluebik Titans ในเครือ Bluebik Group ภายใต้การนำของเขา จึงไม่หยุดพัฒนาโซลูชันด้าน Cyber Security เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกดิจิทัล โดยตั้งเป้าเป็น “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” ที่จะยืนเคียงข้างองค์กรไทย ในวันที่ความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของฝ่าย IT อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ “ความอยู่รอดของทั้งองค์กร”
Bluebik Titans กับแนวทางการดำเนินธุรกิจ
“เราไม่ได้ขายโซลูชันสำเร็จรูป แล้วปล่อยให้ลูกค้ารับมือเอง แต่เราเข้าไปเป็นเหมือนพาร์ตเนอร์ที่พร้อมเดินไปด้วยกัน ตั้งแต่วันแรกที่ประเมินระบบความปลอดภัย ไปจนถึงวันที่องค์กรฟื้นตัวจากการถูกโจมตี” พลสุธี ย้ำถึงแนวทางของ Bluebik Titans
Bluebik Titans ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่ยืนในบทบาท Strategic Partner หรือ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ขององค์กรไทย เพื่อวางระบบป้องกันและรับมือภัยไซเบอร์ในทุกมิติ ตั้งแต่ การวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงรุก ไปจนถึงการฟื้นฟูธุรกิจหลังเกิดเหตุไม่คาดคิด
โดยมี 3 บริการหลัก ที่เป็นหัวใจสำคัญ ได้แก่
- การตรวจสุขภาพระบบความปลอดภัย หาจุดอ่อนในโครงสร้างพื้นฐาน
- การวางนโยบายและเสริมมาตรการควบคุม พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ
- การนำทีมเฉพาะกิจที่เข้าไปช่วยองค์กรจัดการเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ วิเคราะห์ปัญหา และกู้ระบบกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว
ในปี 2025 Bluebik Titans จะเดินหน้าพัฒนาบุคลากรและบริการเชิงลึกมากยิ่งขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นการลงทุนใน Cyber Security, Data Science, AI และ Business Strategy พร้อมขยายบริการไปยังอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก และสาธารณสุข (Healthcare) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนขององค์กรไทยในยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
Bluebik Titans แนะเร่งยกระดับ Cybersecurity ชี้ Generative AI ดันอาชญากรรมไซเบอร์พุ่ง
Cyber Threat Landscape เปลี่ยนไป องค์กรไทยถูก “ล็อกเป้า” มากขึ้น
Landscape ของภัยคุกคามไซเบอร์ในไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่องค์กรขนาดกลางและเล็กมองว่าตนเองไม่ใช่เป้าหมาย แต่ปัจจุบันทุกองค์กรกลายเป็นเป้าหมายได้เสมอ
เพราะทุกวันนี้ แฮกเกอร์ไม่ได้เลือกเป้าหมายที่ขนาดธุรกิจ แต่เลือกองค์กรที่มีช่องโหว่ ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านอาหาร โลจิสติกส์ หรือธุรกิจ SME เล็ก ๆ ก็อาจตกเป็นเป้าได้ หากมีข้อมูลลูกค้าหรือระบบบัญชีที่ไม่ได้รับการดูแล ยิ่งไปกว่านั้น การบังคับใช้กฎหมาย PDPA ทำให้แฮกเกอร์ใช้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” เป็นตัวประกันในการเจรจาเรียกค่าไถ่ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
AI คือดาบสองคม ทั้งผู้ป้องกันและผู้โจมตีต่างนำมาใช้
และด้วยการเข้ามาของ AI ทำให้สมรภูมิ Cyber Security เกิดความซับซ้อนมากขึ้น จากการที่ทั้งฝั่งผู้โจมตีและผู้ป้องกันต่างใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและการเจาะระบบ
- ฝั่งผู้โจมตี (Hacker): ใช้ AI ลดข้อจำกัดด้านทักษะที่ในอดีตอาจทำได้ยาก อย่างแฮกเกอร์ที่ไม่เชี่ยวชาญก็ใช้ AI ในการสแกนหาช่องโหว่ ค้นหาจุดอ่อนในระบบ และสร้างมัลแวร์ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญในเรื่องโค้ดหรือการเจาะระบบแบบเฮกเกอร์ในอดีต
- ฝั่งผู้ป้องกัน (Defender) อย่าง Bluebik Titans นำ AI เข้ามาเสริมการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ไซเบอร์ ลดการพึ่งพาคน และเพิ่มการวิเคราะห์เชิงลึกแบบเรียลไทม์ได้มากขึ้น
ดังนั้น ความท้าทายจึงไม่ใช่แค่การใช้ AI แต่คือการพัฒนาและยกระดับ AI ของตัวเองให้ก้าวหน้าตลอดเวลา เพื่อไล่ให้ทันกับฝั่งผู้โจมตีระบบที่ก็มีความเชี่ยวชาญในการใช้ AI ด้วยเช่นเดียวกัน
การร่วมรับผิดชอบใหม่ภายใต้กฎหมายปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
จากเดิมที่ภาคธุรกิจคิดว่าเป็นเรื่องของฝ่าย IT หรือหน่วยงานรัฐ แต่กฎหมายใหม่จะทำให้ทุกองค์กรต้องมีส่วนร่วมเต็มตัว และไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ด้วยกรอบ Shared Responsibility Framework ที่กำลังเป็นตัวเร่งให้ภาคธุรกิจจริงจังกับมาตรการควบคุมไซเบอร์มากขึ้น ซึ่งการร่างกฎหมายปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับใหม่ จะเข้ามาเปลี่ยนบทบาทของภาคธุรกิจจากผู้ให้บริการมาเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบมากขึ้น
- กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ ธนาคารและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งต้องยกระดับกลไกการตรวจสอบและควบคุมข้อมูลอย่างรัดกุมมากกว่าเดิม
- องค์กรจำเป็นต้องแชร์ข้อมูลกับหน่วยงานภายนอก เพื่อป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น กรณีบัญชีม้า หรือการฟอกเงินผ่านระบบดิจิทัล
- หากไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ธุรกิจเหล่านี้อาจถูกฟ้องร่วมกับผู้ก่อเหตุ หรือถูกลงโทษจากความประมาท
Beyond Business ของ Bluebik Titans กับภารกิจยกระดับความเข้าใจ Cyber Security ในสังคมไทย
Bluebik Titans ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การดูแลองค์กรธุรกิจ แต่ยังมีบทบาทในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับภาคประชาชนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับภัยไซเบอร์ที่ใกล้ตัว อย่างการหลอกโอนเงินโดย Call Center, Deepfake, Voice AI หรือการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์และเพจ Facebook เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้คนไทย รวมถึงส่งเสริมบทบาท Cyber Immunity Program สำหรับองค์กรและสถาบันการศึกษา เพื่อป้องกันและตอบสนองภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้นในอนาคต เพราะทุกวันนี้ภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ต่างจากโรคระบาด ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน ไม่ใช่แค่รู้ว่าต้องป้องกัน แต่ต้องพร้อมรับมือเมื่อโดนโจมตีด้วย
“การป้องกันและฟื้นฟูไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นเงื่อนไขสำคัญของการอยู่รอดและเติบโตในยุคดิจิทัล”
และในวันที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน การมีพันธมิตรที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและกลยุทธ์ธุรกิจอย่าง Bluebik Titans ภายใต้การนำของ พลสุธี ธเนศนิรัตศัย กำลังกลายเป็น “เกราะจำเป็น” ที่องค์กรไทยต้องมี ไม่ใช่แค่เพื่อป้องกันภัย แต่เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทีทีบี ปักหมุดปี 68 ชู ‘ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’ มุ่งช่วยลูกค้าปลดหนี้
เปิดวิสัยทัศน์ ‘นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์’ ซีอีโอใหม่ ดัน GUNKUL ผู้นำพลังงานสะอาดระดับเอเชีย