ออริจิ้น เผยแผนธุรกิจปี 2568 ชูกลยุทธ์ “Resilience Leads To Sustainable Growth” สร้างความยืดหยุ่นและปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ขับเคลื่อนด้วย 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ตั้งแต่คอนโด บ้านจัดสรร ไปจนถึงโลจิสติกส์ พร้อมเป้าหมายใหญ่ปี 2568 ทุ่ม 20,000 ล้านบาท เปิด 11 โครงการใหม่ ตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวถึงกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปี 2568 ว่า จะเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ “Resilience Leads To Sustainable Growth” สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารองค์กร พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นผู้นำและการเติบโตอย่างยั่งยืนบนโอกาสใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
พีระพงษ์มองว่า ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่มีความท้าทาย ทั้งในแง่สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยและการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรจากนโยบาย Great America ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้โลกต้องสั่นคลอน
“ดังนั้นบริษัทฯ ต้องตั้งรับและมีความยืดหยุ่นในการบริหารงาน จึงกำหนดกลยุทธ์ Resilience ยืดหยุ่น ปรับตัว ฟื้นตัวจากอุปสรรคและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง”
มองไทยยังมีทางรอดจากธุรกิจท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความขัดแย้งในโลก ทั้งปัญหาระหว่าสหรัฐฯ และจีน พีระพงษ์มองว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสรอดจากธุรกิจโรงแรม เวลเนสและการท่องเที่ยว ที่จะเป็นแม๊กเน็ตดึงดูดชาวต่างชาติให้มาลงทุนในไทย เพราะต้องการขยายการลงทุนมายังประเทศที่เป็นกลาง เช่น ประเทศไทย นอกจากนี้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีการเติบโตค่อนข้างสูง นักลงทุนต้องการหนีจากประเทศที่มีความเสี่ยงมายังประเทศที่มีความผันผวนทางเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนต่ำ เช่น ประเทศไทย
อีกหนึ่งธุรกิจที่พีระพงษ์มองว่ากำลังมาแรงและสร้างโอกาสได้ คือ คลังสินค้า เพราะมีดีมานด์สูงขึ้น เนื่องจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังประเทศไทย และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ คนสั่งของออนไลน์ สั่งฟู้ด เดลิเวอรีเพิ่มขึ้น
5 กลุ่มธุรกิจหลักของออริจิ้น
บริษัทฯ ได้จัดโครงสร้างธุรกิจให้ชัดเจนขึ้นในลักษณะโฮลดิ้ง คอมพานี โดยจะเป็นการลงทุนถือหุ้นใน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ
- กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ ออริจิ้น เวอร์ติเคิล
- กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทบ้านจัดสรร ภายใต้บริทาเนีย หรือ BRI
- กลุ่มธุรกิจบริการ ภายใต้พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI
- กลุ่มธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว ภายใต้ออริจิ้น โฮเทล
- กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า ภายใต้ แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น
แผนเปิดโครงการใหม่และเป้าหมายปี 2568

สำหรับธุรกิจที่อยู่อาศัย ออริจิ้น เตรียมเปิดโครงการใหม่ในปี 2568 ทั้งพื้นที่ในกรุงเทพและต่างจังหวัดจำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดจาก ORIGIN VERTICAL จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท และเป็นบ้านจัดสรรจาก BRITANIA จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท
บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย (Presales) รวม 30,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม (Total Revenue) 14,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดการโอนกรรมสิทธิ์ (Transfer Activities) ห้องชุดคอนโดและบ้านจัดสรร จำนวน 22,000 ล้านบาท
“จากโครงการที่เปิดขายใหม่และอยู่ระหว่างดำเนินการ (Ongoing) บวกกับการทำการตลาดในเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง มั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้า คือที่ 30,000 ล้านบาท” พีระพงษ์กล่าว
ปัจจุบัน ออริจิ้น มีโครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบและแนวสูงรวมกว่า 198 โครงการ
สร้าง “รายได้-กำไร” กลุ่มธุรกิจใหม่
ออริจิ้น เดินหน้าองค์กรเพื่อสร้างรายได้และกำไรระยะยาว จาก New Business Model ส่วนอื่นที่มีการขยายการลงทุนไปก่อนหน้า สำหรับธุรกิจโรงแรม 9 แห่ง ที่เปิดดำเนินการแล้ว รวมทั้งโครงการที่อยู่ในบริษัทร่วมทุนและไม่ใช่บริษัทร่วมทุน ในปี 2567 มีรายได้โรงแรม กว่า 1,472 ล้านบาท และ EBITDA กว่า 514 ล้านบาท
ในปี 2568 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 1 แห่ง และในภูเก็ตและเชียงใหม่ 2 แห่งเป็นการ Re-opening จากที่ซื้อมาในปี 2566 จะส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทมีการขยายตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ของจำนวนห้องพักและโอกาสในการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานโรงแรมในทำเลที่มีศักยภาพสูง
อีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนคือ แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น ที่ประกอบธุรกิจด้านคลังสินค้า ปัจจุบันมีอัตราการเช่าสูงถึง 97.6%
ดึง ‘ณเดชน์’ กลับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
สำหรับไฮไลต์ของตลาดในประเทศปีนี้ ออริจิ้นดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ร่วมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้งหลังจากที่ร่วมงานกันมาเมื่อ 8 ปีก่อนเพื่อสร้าง Brand Awareness และตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขององค์กร โดยจะเห็นการ Collab ร่วมกันผ่านแคมเปญทางการตลาดตลอดปี 2568
ขณะที่ตลาดต่างประเทศนอกจากแต่งตั้ง Master agent เป็นตัวแทนขาย การเดินสายโรดโชว์ไปยังตลาดประเทศใหม่ๆ แล้ว ยังสร้างกลยุทธ์เชิงรุกด้วยการคว้าตัวศิลปิน ดารา เซเลป ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาเป็นพรีเซนเตอร์ ล่าสุดได้นักแสดงชื่อดังชาวจีน-ฮ่องกง “Irene Wan (เวินปี้เสีย)” เป็นพรีเซ็นเตอร์นำคอนโดมิเนียมแบรนด์ Park Origin Collection บุกตลาดเอเชีย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไซเบอร์จีนิคส์ ชี้ 2025 ปีแห่งความท้าทายด้าน Cybersecurity
สพฉ. จับมือ สามารถดิจิตอล ยกระดับการแพทย์ฉุกเฉินไทย ด้วยระบบ DTRS
‘US Overnight Order’ โอกาสใหม่ของการลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ในเวลากลางวันไทย