SMEs ไทยมีจำนวนมากกว่า 3.2 ล้านราย เฉพาะที่อยู่ในระบบและสามารถสำรวจได้ แต่คาดคะเนว่า หากรวมทั้งหมดจริงน่าจะมากกว่านี้ 2 – 3 เท่า ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนถึง 99.5% ของวิสาหกิจทั้งประเทศ จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ชี้ว่า AI จะเป็นโอกาสในการเติบโต และเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ SMEs ไทยไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่ยังสามารถขยายไปถึงระดับเวทีโลกได้ ซึ่งปัจจุบันขนาดขององค์กรไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป แต่การมีวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ในการนำ AI เข้าไปใช้สร้างความแตกต่างเป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่า
“ไมโครซอฟท์ เชื่อว่า การเสริมสร้างทักษะการใช้งาน AI ให้แก่ทุกคนจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และปลดล็อกให้ธุรกิจเข้าถึงโอกาสที่ยังมีอยู่อีกมากมาย เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ AI เราได้จัดทำหลักสูตรสอนทักษะ AI ที่เปิดให้เรียนฟรีเป็นภาษาไทย โดยมีคอร์สอบรมให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป จนถึงนักพัฒนามืออาชีพ อย่าไปกลัว AI แต่ให้กลัวคนใช้ AI เพราะคนที่จะมาแทนที่เราคือ คนที่ใช้ AI”
ล่าสุด ไมโครซอฟท์ จัดงาน SMEs AI Skills Summit เพื่อสนับสนุน SMEs ยกระดับการดำเนินงานและสร้างแต้มต่อทางธุรกิจด้วยศักยภาพของ AI เช่น Microsoft 365 Copilot ให้เป็นผู้ช่วยสำคัญแก่ SMEs ยุคใหม่ พร้อมนำเสนอแนวทางและมุมมองที่เป็นประโยชน์
เปิดเรียนฟรีเกือบ 200 หลักสูตร
พร้อมทั้งเปิดให้ SMEs และผู้สนใจเรียนรู้ทักษะ AI เป็นภาษาไทยฟรี จำนวนเกือบ 200 หลักสูตร ตั้งแต่ Basic AI CoPilot ไปถึง Advanced AI Engineering ซึ่งแปลโดย AI และผ่านการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ขั้นตอนสุดท้ายโดยมนุษย์ หลักสูตรสอนโดยคนไทย ได้ที่แพลตฟอร์ม AI Skills Navigator: https://aiskillsnavigator.microsoft.com/th-th ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาทักษะ AI ให้คนไทยจำนวน 1 ล้านคนที่ประกาศไปก่อนหน้า โดยใช้เงินลงทุนหลักล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อทำคอนเทนต์และสื่อสาร
“หลังผ่านหลักสูตรต่าง ๆ ที่เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองและเรียนซ้ำไปซ้ำมาได้ในศูนย์รวมคอนเทนต์ดังกล่าว ยังมีลิงก์ต่อสู่ Microsoft Learn ที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นภาษาไทยอีกนับร้อยเรื่องให้ศึกษา”
หวังไทยเกิดศูนย์เป็นเลิศ AI
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ต้องการให้คนได้รับรู้และเข้าใจ AI เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง ซึ่งได้ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้าง AI Center of Excellence ให้เป็น Sandbox ลงลึกไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยหวังจะเพิ่มความเร็วในการนำไปใช้ให้อยู่ระดับทัดเทียมประเทศที่นำ AI ไปใช้ประโยชน์แล้ว ไม่ใช่อยู่ในขั้นทดลอง
อุตสาหกรรมหลักที่น่าสนใจ เช่น ภาคเกษตรที่เป็นอุตสาหกรรมสำคัญของไทย ใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของประเทศ ใช้กำลังคนมากกว่า 40% แต่ GDP มีเพียง 6% จึงเป็นโอกาสที่จะนำ AI มาใช้เพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่า หรือการท่องเที่ยว ก็นำ AI มาช่วยได้ เช่นแปลภาษาได้มากกว่า 100 ภาษา หากนำมาช่วยผู้ประกอบการ ช่วยสื่อสารกับคนได้มากขึ้น และช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
ปัจจุบัน ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเริ่มทำอะไรก่อน ซึ่งจะเป็นความร่วมมือ 3 ฝ่าย เทคโนโลยี รัฐ เอกชน โดยได้เริ่มพูดคุยกันไปบ้างแล้ว
“ถ้าภายในปีนี้เราไม่ขยับ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ในการสร้าง Adoption และสร้าง impact ใน industry ในกลุ่มที่เรารับผิดชอบผมว่า เราจะเสียโอกาส เราดูประเทศรอบบ้าน สิงคโปร์ announce ไปเรียบร้อย มาเลเซีย เซ็ตอัป National AI Center แล้ว ซึ่งเรื่อง disruption ของ AI อดีตไม่มีผล ขอให้เริ่มเท่านั้น ก็ไปได้เลย ให้ดู Advance ของ AI เป็นตัวอย่าง ออกมาทุกอาทิตย์ ทุกเดือน ตลอดเวลา เพียงมีโจทย์ที่ชัด มีการลงทุน และ Adoption Plan ที่ชัด มีทักษะที่จะตอบโจทย์ ผมว่าน่าสนใจ และประเทศไทยมีโอกาสมาก”
ทั้งนี้ หากศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI เกิดขึ้นจริงจะมีประโยชน์มาก เพราะประเทศไหนที่มี AI Strategy และทำ Adoption ได้ดีจะเกิด Competitive Advantage เช่นเดียวกับองค์กรไหนทำ AI Strategy ได้ดี จะมี Competitive Advantage
เตรียมเพิ่ม Use Case สร้างแรงจูงใจ
ส่วนการจะเริ่มต้นใช้ AI นั้น มองว่า Mindset เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องดูว่าตัวเองจะเปิดรับไหม จะยอมใช้ไหม เพราะเวอร์ชั่นฟรีก็มีให้ใช้งาน ใช้แล้วจะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งงบประมาณไม่ใช่ประเด็นหลัก นอกจากต้องการผลอันยิ่งใหญ่ในวงกว้างต่อไป
ในส่วนของไมโครซอฟท์การจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยน Mindset จะทำโดยพยายามเพิ่ม Use Case จำนวนมากที่นำ AI ไปใช้แล้วได้ประโยชน์ตอบแทนอย่างไรเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ทำตาม
แนะสร้าง Library ใช้งานจริง

ศ.ดร.วิเชียร เปรมชัยสวัสดิ์ รองประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย บอกว่า การผลักดันให้ SMEs ใน AI ต้องมองในรายละเอียด เช่น ภาคการเกษตร น่าจะติดตั้งระบบให้ดู
“ทำเป็น Library ที่เพียงปรับเล็กน้อยก็นำไปใช้ได้เลย มี ROI วัดผลได้ จะทำให้เกิดความสำเร็จง่ายขึ้นกว่าทำทั่วๆ ไปซึ่งถ้าจะใช้งานยังต้องคิดเองอีก”
จากนิทานสู่องค์กร
วราภรณ์ มนัสรังษี รองประธาน กลุ่มบริษัท “เค-เฟรช” ผู้ผลิต และส่งออกมะพร้าวน้ำหอมเกรดพรีเมี่ยม เล่าประสบการณ์ว่า เคยมองว่า AI เป็นเรื่องไกลตัว ดังนั้น จะต้องกล้าใช้ก่อน เริ่มจากนำ AI มาทำภาพนิทานให้หลาน และได้มองเห็นว่า ตอบโจทย์หลายด้านขององค์กร
ในฐานะที่อยู่ธุรกิจเกษตร มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ต้องสื่อสารจึงใช้ AI มาช่วย ทำให้งาน HR ดีขึ้น หรือในกระบวนการผลิตต้องใช้น้ำบาดาล ก็ได้ AI เป็นคู่คิดหาข้อมูลและแก้ไขปัญหาขั้นต้นบริหารจัดการปัญหาน้ำบาดาล รวมถึงเรื่องกฎระเบียบทางกฎหมายในประเทศ ต่างประเทศ
ธีรานนท์ ศิริกุลพิริยะ ผู้ก่อตั้ง Insightist และกรรมการผู้จัดการ Solutions IMPACT ให้คำแนะนำการใช้ AI อย่างได้ผล ควรประกอบด้วย การประยุกต์ AI เข้าไปช่วยคิดงาน วางแผนด้านต่างๆ คือ กลยุทธ์ ตัดสินใจ งานประจำวัน การประชุม การเสนอไอเดีย เป็นต้น การประยุกต์ AI ใช้สร้างผลงาน โดยหา AI Tools ที่มีอยู่มาผสม ตอบโจทย์งานในแต่ละขั้นตอน และประยุกต์ AI เชื่อมระบบ สร้าง Customize AI ขององค์กร ให้ AI อยู่ใน Process&Workflow
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ชู ‘Gemba’ เจาะลึกผู้บริโภค ผนึกดิจิทัล ครองใจ Gen Z
พลังหญิงขับเคลื่อน SCBX: เปิดเส้นทางท้าทาย สู่ผู้นำยุคใหม่