ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความสำคัญขึ้นทุกขณะ โอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ก็ผุดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวง “ธุรกิจสีเขียว” ที่ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่กำลังกลายเป็น “ทางรอด” สำหรับผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพและอนาคตที่สดใสของธุรกิจดังกล่าว สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) จึงร่วมกับธนาคารออมสิน เปิดตัว “หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว (Entrepreneurship & Green Business Design)” เพื่อบ่มเพาะและติดอาวุธให้กับผู้ที่สนใจสร้างสรรค์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อโลกควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน
หลักสูตรดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับการออกแบบและพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมสีเขียวให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ และธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อให้รู้จักแนวทางการทำธุรกิจใหม่ตามเทรนด์โลกที่ให้ความสนใจในปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และเทรนด์ของนักลงทุนที่หันมาให้ความสนใจธุรกิจสีเขียวมากขึ้น
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเรียนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้เข้าเรียนจะได้รับฟังการบรรยายออนไลน์ใน 7 วิชา และรับฟังกรณีศึกษาจากองค์กรพันธมิตรและสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินงานด้านธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว
ธุรกิจสีเขียว: เทรนด์โลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า การทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือธุรกิจสีเขียว (Green Business) กลายเป็นเทรนด์การทำธุรกิจที่อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ New Business Model และ New Economy นักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างมองว่าธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสินค้าที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุย่อยสลายง่าย สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ สินค้าด้านพลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ไฟฟ้า Eco Car โซลาร์เซลล์ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ สินค้าและบริการที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ไบโอ อาหารจากพืช พลาสติกชีวภาพจากพืช และร้าน Refill Store ที่ให้ลูกค้านำขวด กระป๋อง กล่อง หรือถุงที่มีอยู่แล้วมาเติมผลิตภัณฑ์จากร้านกลับไปได้ ล้วนแล้วแต่เป็น “ธุรกิจแห่งอนาคต” ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในรูปแบบธุรกิจสีเขียว
“การเรียนรู้ด้าน Green Business & Innovation จะไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด และเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า และแข่งขันในระดับเวทีการค้าโลกได้อย่างยั่งยืน”
ดร.กริชผกา กล่าวว่า ธุรกิจสีเขียวคือกลยุทธ์สำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ นอกจากจะช่วยลดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ยังช่วยให้ธุรกิจมีความโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งได้เป็นอย่างดี เมื่อภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หันมาออกแบบบริการและสินค้าด้วยจุดยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ในการใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือช่วยลดผลกระทบจากวิกฤติสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ด้านศักดิ์สิทธิ์ สุนทรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs Start up กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารออมสินในบทบาท “ธนาคารเพื่อสังคม” ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรตามกรอบแนวคิด ESG ที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเล็งเห็นว่าการที่ประเทศไทยจะสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันอย่างลงตัวก็คือ ธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว
“การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่มาพร้อมกับความใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อการดูแลโลกของเราไปพร้อม ๆ กัน เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้มีการเติบโตเกื้อกูลแก่ทุกฝ่าย ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และนำมาซึ่งการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน” ศักดิ์สิทธิ์กล่าว
กลุ่มเป้าหมายของหลักสูตร
หลักสูตรนี้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่
- ผู้ประกอบการปัจจุบันหรือผู้ที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจสีเขียว: สำหรับผู้ที่ต้องการหาแนวทางในการออกแบบธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
- นักธุรกิจรุ่นใหม่: ผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและต้องการทำธุรกิจสีเขียว แต่ยังขาดความรู้พื้นฐานด้านธุรกิจ
- บุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่: ผู้ที่ทำงานในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีหน้าที่ดูแลเรื่องความยั่งยืนขององค์กร สามารถเข้าร่วมเรียนรู้เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาองค์กรได้
หลักสูตรนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง NIA และธนาคารออมสินตลอดปี 2566 – 2567 ที่ได้มีการผลิตสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม NIA Academy MOOCs ในหัวข้อ “การเป็นผู้ประกอบการและการพัฒนาธุรกิจใหม่ Entrepreneurship and New Business Development” และ “Sustainable Development, ESG and Business Model Development Program การสร้างกรอบแนวคิดธุรกิจใหม่และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากผู้สนใจทั้งนักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมออนไลน์ต่อปีไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย
ความคิดสร้างสรรค์: หัวใจของธุรกิจสีเขียวในยุคใหม่
ดร.ตรียุทธ พรหมศิริ ประธานสาขาผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นผู้ออกแบบหลักสูตรผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว ให้ทัศนะว่า แนวโน้มผู้ประกอบการไทยจะกลับไปให้ความสำคัญกับความเป็นพื้นถิ่น (Local) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) มากขึ้น ผู้คนจะหันมาทำในสิ่งที่ตนเองสามารถควบคุมได้ แต่การนำสิ่งนั้นไปขายแบบธรรมดา ๆ คงไม่เพียงพอและไม่น่าสนใจ จึงต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ในการนำเรื่องราวท้องถิ่นมาเล่า เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ โดยมีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดและการขายสินค้า
“ความคิดสร้างสรรค์เป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในยุคที่ต้นทุนถูกลง แต่ทุกคนต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างคุณค่า (Value) ให้สินค้า ยกตัวอย่างเช่น ขี้เถ้าจากกระถางธูป ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ บางคนมองว่าเป็นขยะ แต่หากมองในมุมใหม่และเล่าเรื่องราวของความเป็นสิริมงคลของกระถางธูป แล้วนำขี้เถ้ามาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เครื่องรางของขลัง ก็สามารถสร้างความแตกต่างและจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งได้ทันที” ตรียุทธกล่าวกับ The Story Thailand
จริงๆ แล้ว สิ่งรอบตัวเรามีอีกมากมายที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เช่น กากกาแฟ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวที่ผู้คนพร้อมที่จะซื้อ
“หากต้องการประสบความสำเร็จ ต้องชนะด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพราะสินค้าเหมือน ๆ กัน สิ่งที่แตกต่างคือวิธีการออกแบบและการเล่าเรื่องราว”
อย่าทำเพื่อรวย: ค้นหาคุณค่าที่อยากส่งต่อให้โลก
สำหรับคำแนะนำต่อผู้ประกอบการในยุคปัจจุบันนั้น ตรียุทธกล่าวว่า การเป็นผู้ประกอบการไม่ได้หมายถึงการประสบความสำเร็จทันทีตั้งแต่แรกเริ่ม สิ่งสำคัญคือการมีไอเดีย และต้องการผลักดันไอเดียนั้นให้เข้าสู่ตลาดและมีผู้ใช้งานจำนวนมาก สิ่งนั้นคือหัวใจของการเป็นผู้ประกอบการ เพราะระหว่างทางจะพบเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ต้องยึดมั่นคือไอเดียหรือเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ หากยึดมั่นในสิ่งนั้นได้ ก็จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ แต่ถ้าทำเพียงเพราะอยากร่ำรวย บางครั้งอาจจะล้มเลิกไปกลางทาง เพราะอาจมีสิ่งอื่นที่คิดว่าน่าสนใจกว่าเข้ามาแทรกมากมาย
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องถามตัวเองว่า เราอยากส่งพลังหรือข้อความอะไรให้กับโลก เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการ”
เคล็ดลับธุรกิจสีเขียว เริ่มจากใจรักและเข้าใจ
สำหรับคนที่ใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองมาตั้งแต่ตอนอายุน้อย ๆ อย่าง ชนกวนันท์ รักชีพ นักแสดงและนางแบบที่มีอาชีพเสริมเป็นชาวนา ทำนาวิถีเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร เธอแชร์เคล็ดลับของการทำธุรกิจว่า ก่อนอื่นต้องมี Passion หรือความหลงใหลก่อน และต้องมีความเข้าใจว่าต้องการทำสิ่งนั้น ๆ เพื่ออะไร
ส่วนการคิดสินค้าขึ้นมาจำหน่ายนั้น เธอจะคิดง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เช่น กล่องข้าวพับได้ซึ่งเป็นสินค้าชิ้นหนึ่งที่ขายดีมาก เพราะสะดวกในการพกพามากกว่ากล่องข้าวปกติ หรือกล้วยตากจากฟาร์มออแกนิกที่ทำเป็นแพ็กเล็ก ๆ ขนาด 3 ชิ้น เพราะคนมักจะกินไม่หมดถ้าทำขายเป็นห่อใหญ่
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Bitkub Chain รีแบรนด์เป็น KUB Chain มุ่งสู่บล็อกเชนสาธารณะระดับโลก
กรุงศรี ฟินโนเวต ปักหมุด Global Venture Capital ดันสตาร์ตอัพโตต่อในระดับภูมิภาค