Share on
×

Share

ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ SeaChange 2030 ลดขยะพลาสติกในทะเล 1,500 ตันภายในปี 2573

ขยะตกค้างในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทพลาสติกถึง 88% ของขยะทะเลที่พบทั้งหมด ตามสถิติข้อมูลขยะทะเล ปี 2567

ในโอกาสวันมหาสมุทรโลก บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU จัด “โครงการเก็บขยะทะเลเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลท้องทะเลภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน

กิจกรรมเก็บขยะทะเลของไทยยูเนี่ยนจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยปีนี้มีอาสาสมัครจากทั้งไทยยูเนี่ยน และบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง เข้าร่วมเป็นปีแรก พร้อมด้วยตัวแทนจากภาครัฐ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 องค์การบริหารส่วนตำบลบางหญ้าแพรก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร บริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัดเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) โรงเรียนในท้องถิ่น และโรงเรียนนานาชาติ รวมกว่า 350 คน ร่วมกันเก็บขยะพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่กักเก็บขยะทะเล

4 ปีเก็บขยะกว่า 25 ตัน

ปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้ตอบโจทย์กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange 2030 ของบริษัท เรื่องการลดขยะพลาสติกในทะเลไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและทะเลให้ได้ตามเป้าหมาย 1,500 ตัน ภายในปี 2573 ของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น จึงมุ่งปกป้องดูแลทรัพยากรในมหาสมุทรและระบบนิเวศ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก

ปัจจุบันมีขยะพลาสติกเกือบ 200 ล้านตันในท้องทะเล ที่เกิดจากการทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ท้องทะเล ท่อระบายน้ำ และการกำจัดขยะที่ไม่ถูกต้อง

โครงการเก็บขยะทะเลของบริษัทดำเนินการปีละ 2-3 ครั้งในพื้นที่ป่าชายเลน และชายฝั่งทะเล ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2564 – 2567 โดยระดมพลังอาสาสมัครของบริษัท และพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลก ร่วมเก็บขยะได้ถึง 25,171 กิโลกรัม หรือกว่า 25 ตัน สะท้อนให้เห็นถึงปริมาณขยะจำนวนมากที่อยู่ในท้องทะเล

“การดำเนินการอย่างต่อเนื่องนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะในทันที แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างจิตสำนึกที่ดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน”

ครั้งเดียวเก็บได้กว่า 2.4 ตัน

ปีนี้ โครงการเก็บขยะเนื่องในวันมหาสมุทรโลกของไทยยูเนี่ยนได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือไปสู่ 11 ประเทศใน 4 ทวีป ได้แก่ ไทย, สหรัฐอเมริกา, กานา, เซเชลส์, สหราชอาณาจักร, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และอิตาลี โดยเน้นการเก็บขยะในพื้นที่สำคัญ เช่น ป่าชายเลน, แม่น้ำ, ชายหาด และบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานของไทยยูเนี่ยน แต่ละประเทศจะกำหนดกิจกรรมของตัวเอง ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน

เฉพาะประเทศไทย การเก็บขยะครั้งนี้มีปริมาณ 2,401 กิโลกรัม ที่มากที่สุดคือ โฟม จำนวน 800 กิโลกรัม จากปีที่ผ่านมาเก็บได้ 2,237 กิโลกรัม มีทั้งที่นอนใหญ่ ๆ และโทรทัศน์ที่ลอยมาติดอยู่ในป่าชายเลน

“ที่ไทยยูเนี่ยนเราตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัท 100% จะต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนภายในปี 2568 และเราจะสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ผลิตให้กับคู่ค้าอย่างน้อย 60% ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนเช่นกัน นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับองค์กร Global Ghost Gear Initiative (GGGI) อย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาการทิ้งอุปกรณ์จับปลาในท้องทะเลทั่วโลก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดขยะพลาสติกในท้องทะเลตามเป้าหมาย” 

คัดแยกตามมาตรฐานสากล

ขยะที่เก็บรวบรวมได้จากโครงการทั้งหมดจะนำไปคัดแยกและจดบันทึกตามแนวทางของ International Coastal Cleanup (ICC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการเก็บข้อมูลขยะทะเล ขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งมอบให้บริษัทจัดการขยะในพื้นที่เพื่อนำไปแปรรูปอย่างเหมาะสม ส่วนขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งต่อผ่านหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวของส่งไปยังบริษัทที่รับแปรสภาพขยะเพื่อนำไปทำเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นกระบวนการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน

นอกจากกิจกรรมครั้งนี้ บริษัทยังร่วมมือกับองค์กรภายนอก เช่น การติดตั้งเครื่องดักจับขยะพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ HIPPO (High Impact Plastic Pollution remOver) ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อช่วยลดปริมาณขยะ และร่วมแก้ไขปัญหาขยะไหลออกสู่ท้องทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เมื่อโทรศัพท์ดังกลายเป็นภัย: ‘แมนวู จู’ กับภารกิจสร้างโลกการสื่อสารที่ไว้วางใจได้ของ Gogolook

NET ZERO: ทางรอด และทางรุ่งใหม่ในธุรกิจ SME

×

Share