Share on
×

Share

หน่วยงานรัฐรอใช้คลาวด์กลางกว่าแสน VM

ปริมาณความต้องการใช้คลาวด์ภาครัฐมีสูงถึงประมาณ 200,000 VM (Virtual Machines) ซึ่งเป็นผลสำรวจประมาณกว่า 1 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันคลาวด์กลางภาครัฐให้บริการอยู่ประมาณ 40,000 VM ซึ่งอนาคตการทำ ERP หรือ e- Document และทุกหน่วยงานต้องโอนย้ายไปอยู่บนคลาวด์ ความต้องการใช้งานจะต้องสูงกว่าผลสำรวจดังกล่าวแน่นอน

ล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดตัว “GDCC Open Data” คลาวด์ภาครัฐยุคใหม่ พร้อมพันธมิตรบริการคลาวด์ชั้นนำร่วมยกระดับรัฐบาลดิจิทัลพร้อมต่อยอดพัฒนาข้อมูลเปิดภาครัฐ

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) อธิบายว่า การจะขึ้นคลาวด์ต้องมีกระบวนการจัดระดับความอ่อนไหว (Sensitivity) ของข้อมูล ข้อมูลจำนวนหนึ่งที่อ่อนไหวสูงต้องเก็บไว้โดยรัฐ ข้อมูลจำนวนหนึ่งต้องอยู่ภายในประเทศ จำนวนหนึ่งจะอยู่กับเอกชนได้ โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลด้วย จึงต้องมีกระบวนการจัดการ ซึ่งเรื่องนี้จะเข้าสู่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อสั่งการ โดยในส่วนของ GDCC มีความพร้อมในเรื่องการขยายการให้บริการคลาวด์ หากต้องการให้ราชการดำเนินการได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้ง NT และ สดช. จะต้องรับนโยบายในเรื่องนี้มาด้วย

ภายหลังการจัดการแล้ว จะได้เห็นความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลที่มากขึ้น ข้อมูลหลุดรั่วลดลง และการส่งข้อมูลระหว่างคลาวด์ที่น้อยลงจะปลอดภัยขึ้น และที่สำคัญประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้น

ระบบคลาวด์กลางภาครัฐเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ดีอีจึงมุ่งผลักดันการพัฒนาโครงสร้างคลาวด์กลางหลักของภาครัฐ

ผนึกพันธมิตรวางรากฐานคลาวด์ภาครัฐ

ล่าสุดระบบคลาวด์ GDCC Open Data เป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของคลาวด์ภาครัฐตามแนวนโยบาย Go Cloud First ที่จะช่วยปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตอบสนองยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาล เพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลดิจิทัลและพัฒนาประเทศไทยให้เป็นสังคมดิจิทัลที่มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก

ทั้งนี้ GDCC Open Data คลาวด์กลางรูปแบบใหม่ได้บูรณาการความร่วมมือผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT), Alibaba, AWS, CloudHM, Huawei, INET, NIPA, Microsoft และ Oracle เป็นการยกระดับการทำงานของคลาวด์ภาครัฐ ทั้งด้านทรัพยากรไอที เทคโนโลยีคลาวด์และเอไอ การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่เป็นสากล พร้อมรองรับการเป็นโครงสร้างสำคัญให้กับรัฐบาลดิจิทัลเปลี่ยนผ่านการบริหารงานภาครัฐเป็นระบบงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven)

โครงสร้างพื้นฐาน GDCC Open Data จะเป็นกลไกให้รัฐบาลสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและบริการสาธารณะต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงสามารถรองรับการขับเคลื่อนข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Data) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญที่ดีอีผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลเปิดภาครัฐจะไม่เพียงเสริมสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานบริการภาครัฐ แต่ยังเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงและนำข้อมูลเปิดที่เป็นประโยชน์ไปต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรม และพัฒนาบริการใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของสังคมได้อย่างแท้จริง เป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานข้อมูลเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ใช้งบประมาณ 2 แหล่งปีละกว่า 2,000 ล้าน

เวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) หน่วยงานผู้ดำเนินโครงการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC (Government Data Center and Cloud Services) ให้ข้อมูลว่า ได้ของบประมาณปี 2569 ไป 2,500 ล้านบาท แต่ได้วงเงินมาประมาณ 1,000 ล้านบาทกว่า ซึ่งแต่ละปีจะมีทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) ที่ทำหน้าที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การลดเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล รวมทั้งสองแหล่งเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน รัฐบาลให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระบบคลาวด์ภาครัฐ GDCC เป็นศูนย์รวมข้อมูลภาครัฐที่ปลอดภัยด้วยมาตรฐานสากล ให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐแล้วจำนวน 204 กรม 1,182 หน่วยงาน 3,753 ระบบงาน และมีหน่วยงานที่รอการเข้าใช้บริการอีกเป็นเท่าตัว

สร้างนวัตกรรมตอบโจทย์เศรษฐกิจดิจิทัล

ที่ผ่านมาคลาวด์กลาง GDCC ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผล แพลตฟอร์มบริการจัดการสำนักงาน e-Office รวมทั้งขยายบริการด้านแพลตฟอร์มกลางแก่หน่วยงานภาครัฐเพื่อสนับสนุนนโยบายด้านข้อมูลเปิด เช่น ระบบพอร์ทัลกลางสำหรับประชาชน (Citizen Portal) ศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อภาคธุรกิจ (Biz Portal) ระบบแลกเปลี่ยนประวัติการรักษาผู้ป่วยข้ามโรงพยาบาล (Health Link) ระบบกลางด้านกฎหมาย (Law Portal) ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (GD Catalog) การพัฒนาระบบยืนยันตัวตนกลาง (Digital ID) ฯลฯ

ในอนาคตการต่อยอดการใช้งานคลาวด์จะเน้นไปที่การต่อยอดด้านการเชื่อมโยงและใช้งานข้อมูล ซึ่งการพัฒนาคลาวด์ระบบใหม่ GDCC Open Dataจะสามารถรองรับการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมที่ยั่งยืนด้วยการนำข้อมูลจาก GDCC Open Data มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ควบคู่กับการใช้งานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ ในการสร้างนโยบายและบริการสาธารณะที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมทั้งส่งเสริมความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของภาครัฐ

NT พัฒนาแพลตฟอร์มกลาง CMP

พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า NT พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการพับลิกคลาวด์ระดับโลกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบคลาวด์ GDCC Open Data รองรับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลด้านการบูรณาการข้อมูลภาครัฐให้เป็น Open Data ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเทรน AI ของภาครัฐด้วยข้อมูลของประเทศไทย

ทั้งนี้ NT ได้พัฒนา Cloud Management Platform (CMP) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางในการบริหารจัดการเชื่อมโยงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างระบบคลาวด์ GDCC และระบบคลาวด์ GDCC Open Data ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐเลือกใช้บริการคลาวด์ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละงานรวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์มกลางดังกล่าว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

BOL ชี้ทางรอดธุรกิจยุคใหม่ ชู ‘Data-Driven Transformation’ เป็นเข็มทิศฝ่าเศรษฐกิจผันผวน

ศธ. อว. และไมโครซอฟท์ สร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วย AI ให้คนไทย

×

Share