Share on
×

Share

SIG ยกระดับเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ แก้ปัญหา Food Waste และ Packaging Waste

รีไซเคิล (Recycle) เป็นคำศัพท์ยอดนิยมสำหรับความยั่งยืน เนื่องจากมีศักยภาพในการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญในระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การขาดแคลนทรัพยากร และอื่น ๆ ในขณะเดียวกันการรีไซเคิลก็เป็นความท้าทายของผู้ผลิต ที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ให้ประกอบไปด้วยวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้สมบูรณ์ เพราะไม่ใช่ทุกส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อค จำกัด (SIG) จึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่เพื่อทำตามนโยบายความยั่งยืนด้าน Food + และ Resource+ ภายในงาน Propak Asia ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการรีไซเคิล ลดปัญหา Food Waste และ Packaging Waste ซึ่งโลกกำลังเผชิญอยู่ ณ ปัจจุบัน

Alu-Free: แก้ปัญหาอลูมิเนียม ตัวปัญหาที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ยากต่อการรีไซเคิล

อะลูมิเนียม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลให้การรีไซเคิลเป็นไปได้ยาก เนื่องด้วยเมื่อแยกเยื่อกระดาษออกมาสร้างเป็นทิชชูหรือสมุดบันทึกแล้ว จะเหลือส่วนที่เป็นพอลิเมอร์และอะลูมิเนียมที่เรียกว่า “PolyAl” ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปขึ้นรูปเป็นแผ่นพื้น ผนัง หลังคา หรือเฟอร์นิเจอร์ได้เท่านั้น ในครั้งนี้ทาง SIG ได้สร้างนวัตกรรมที่มีชื่อว่า “Sig Terra Alu-Free Full Barrier” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อ ที่นอกจากจะตอบโจทย์การรีไซเคิลแล้ว ยังเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ของ SIG ที่ต้องการให้วัสดุบรรจุภัณฑ์ประกอบด้วยกระดาษกว่า 90%

วัชรพงศ์ อึงศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเทศไทย ลาว พม่าและกัมพูชา เอสไอจี เล่าถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ Alu-Free ในครั้งนี้ว่า บริษัทได้ออกแบบมาอย่างรอบคอบ โดยมั่นใจว่าการเปลี่ยนเป็น Alu-Free จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับเรื่องของกำลังการผลิต และ Shelf Life ที่สามารถอยู่ได้นานถึง 9 เดือนเท่ากับผลิตภัณฑ์ ก่อนจะนำอะลูมิเนียมออก นอกจากนี้การนำอะลูมิเนียมออกและเปลี่ยนวัสดุไปใช้พอลิเมอร์จากพืชทั้งหมด ยังส่งผลให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เป็นผลมาจากการผลิตน้อยลงกว่า 28% ตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการลดปริมาณ Carbon Footprint ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง

Carbons-for-good-Thailand

เมนู Drink+ เพิ่มความหลากหลายทางเครื่องดื่ม ลดปัญหา Food Waste  

เชอริล ยอง หัวหน้าฝ่ายการตลาดและความยั่งยืน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ เอสไอจี เปิดเผยว่า ตลาดชานมไข่มุกในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีสถิติที่ระบุว่าคนไทยดื่มชาไข่มุกเฉลี่ย 6 แก้วต่อเดือน จากปัจจัยนี้ทำให้ชาไข่มุกมียอดจำหน่ายสูงถึง 3.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยอินโดนีเซียเป็นผู้นำที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยไทยที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อทาง SIG ได้ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภค ที่ต้องการเนื้อสัมผัสบางอย่างลงในตัวเครื่องดื่ม เช่น ไข่มุกหรือเยลลี่ บริษัทจึงได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ Drink+ เครื่องดื่มผสมวุ้นผลไม้ทางเลือกสำหรับสายสุขภาพ โดยตัวผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการผลิตด้วยกรรมวิธีฆ่าเชื้อรูปแบบใหม่อย่าง Aseptic Technology ที่เป็นการฆ่าเชื้อแบบไม่ใช้ความร้อน ส่งผลให้วัตถุดิบสามารถเก็บรักษาได้นาน พร้อมทั้งยังคงไว้ซึ่งวิตามินตามธรรมชาติของผลไม้ ตอบโจทย์สำหรับสายสุขภาพ ที่ต้องการเปลี่ยนจากการดื่มชาที่มีน้ำตาลสูงมาเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ ที่ยังคงได้รสสัมผัสของไข่มุกในราคาที่จับต้องได้

และเพื่อลดปัญหา Food Waste ที่เกิดขึ้น SIG จึงจับมือกับบริษัท อัมพลฟูดส์ (Ampolfood) เพื่อนำเศษเปลือกมะม่วงที่เหลือทิ้งจากเกษตรกรมาทำเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มของผลิตภัณฑ์ Drink+ ที่มีชื่อว่า พุดดิ้งมะม่วง (Mango Pudding) ซึ่งจะสามารถลดปริมาณ Food Waste ได้กว่า 15 ตัน

ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในกลุ่มอาเซียนที่ได้นำเทคโนโลยี Alu-Free มาใช้ในบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนการรีไซเคิล ให้สอดคล้องกับประเทศไทยที่มีเป้าหมายในการลดขยะฝังกลบลง 30% ภายในปี 2572 นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีร่าง EPR (Extended Producer Responsibility) ที่คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2569 ทำให้ภายในปี 2570 แบรนด์ต่าง ๆ ต้องวางแผนการลงทุนในการเก็บรวบรวมและรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ การเข้ามาของเทคโนโลยี Alu-Free และ Drink+ จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับแบรนด์เครื่องดื่มในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนเองให้ตอบสนองต่อนโยบายประเทศและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘ขยะอาหาร’ หายนะสิ่งแวดล้อมที่หนักกว่า ‘ขยะบรรจุภัณฑ์’

ปฏิวัติ T-VER ป่าไม้ไทย: ‘AI-ประกันภัยคาร์บอน’ สู่มาตรฐานโลก

×

Share

ผู้เขียน