บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อโปรเจกต์ “Future You” ที่พัฒนาร่วมกับสถาบันชั้นนำของโลกอย่าง MIT Media Lab, UCLA และ Harvard คว้ารางวัล “World Changing Ideas 2025” จาก Fast Company สื่อด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทรงอิทธิพลระดับโลก ตอกย้ำศักยภาพของคนไทยในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี AI ที่ไม่เพียงแต่ล้ำสมัย แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกและยกระดับความเป็นมนุษย์ได้อย่างแท้จริง
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาที่ยาวนานเกือบ 3 ปี ก่อนที่กระแส Generative AI จะโด่งดังไปทั่วโลก โดย “Future You” ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นปก Wall Street Journal, ได้รับการยกย่องเป็นกรณีศึกษาเชิงบวก (Positive Use Case) ของ AI จาก สหภาพยุโรป (European Union) การนำเสนอในสื่อชั้นนำอย่าง The Guardian, Wired Magazine, BBC และที่สำคัญคือการถูกนำไปทดลองใช้จริงใน Harvard Medical School เพื่อการบำบัดผู้ป่วย
ล่าสุด “Future You” ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็น 1 ใน 100 โครงการที่เปลี่ยนแปลงโลก จากผู้เข้าชิงกว่า 1,500 โปรเจกต์ทั่วโลก ในรางวัล World Changing Ideas 2025 โดย Fast Company ซึ่งถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผลงานของทีมวิศวกรและนักวิจัยไทยจาก KBTG สามารถแข่งขันและเป็นที่ยอมรับในระดับสูงสุดของโลกได้
Future You: เมื่อ AI พาเราไปคุยกับตัวเองในอนาคต
โครงการ Future You นี้เริ่มต้นพัฒนามาเกือบ 3 ปีก่อนที่ ChatGPT จะโด่งดัง และได้เปิดตัวเดโมครั้งแรกในงาน MIT Southeast Asia Forum ที่ KBTG เป็นเจ้าภาพร่วมในปี 2022
ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร (พีพี) Co-Director, Advancing Humans with AI (AHA) นักวิจัยจาก MIT Media Lab และ KBTG Fellow ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังว่ามาจากภาพจำในวัยเด็ก คือตอนที่โดราเอมอนพาโนบิตะนั่งไทม์แมชชีนไปเห็นอนาคตของตัวเอง ทำให้โนบิตะตระหนักและกลับมาตั้งใจเรียนในปัจจุบัน
จากแนวคิดนั้น ได้กลายมาเป็น Future You แพลตฟอร์ม AI ที่สร้าง “Digital Twin” หรือร่างจำลองดิจิทัลของผู้ใช้งานในอนาคต เช่น ในวัย 60 ปี โดยใช้ข้อมูลปัจจุบันของผู้ใช้เป็นพื้นฐาน ผู้ใช้สามารถสนทนากับ “ตัวเองในอนาคต” เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางแผนการเงิน สุขภาพ หรือเส้นทางอาชีพ และเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งกระบวนการนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ผู้คนวางแผนอนาคตได้ดีขึ้น ทั้งในด้านการเงิน สุขภาพ และการใช้ชีวิต
หัวใจสำคัญของโครงการคือแนวคิดทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “Future Self Continuity” ซึ่งพัฒนาร่วมกับ ศาสตราจารย์ Hal Hershfield อาจารย์ประจำสาขาการตลาดและการตัดสินใจเชิงพฤติกรรม ที่โรงเรียนการจัดการ UCLA Anderson ซึ่งเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม
“ผลการวิจัยชี้ชัดว่า ยิ่งคนเรารู้สึกเชื่อมโยงและเข้าอกเข้าใจตัวตนในอนาคตของตัวเองได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิต (Mental Health) และนำไปสู่การตัดสินใจในปัจจุบันที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเงิน การดูแลสุขภาพ หรือการตั้งใจเรียน” ดร.พัทน์ กล่าว
ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับโลกอย่าง IEEE พบว่า “Future You” สามารถเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างตัวตนในปัจจุบันกับอนาคต (Future Self Continuity) และลดความวิตกกังวล (Anxiety) ของผู้ใช้งานได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับ AI Chatbot ทั่วไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของเทคโนโลยีในการส่งเสริมการเติบโตของมนุษย์
และหนึ่งในความเฉียบคมทางเทคนิคที่ทำให้ Future You แตกต่าง คือการเปลี่ยนข้อจำกัดของ AI ให้กลายเป็นจุดแข็ง ดร.พัทน์ อธิบายว่า “เราเปลี่ยนการที่ AI สร้างข้อมูลที่ไม่มีอยู่จริง (หรือ Hallucination) ให้กลายเป็น Feature ไม่ใช่ Bug เราไม่ได้ต้องการเครื่องมือที่ทำนายอนาคตแม่นยำ 100% แต่เราต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้คนได้ ‘จินตนาการ’ ถึงอนาคตที่เป็นไปได้หลากหลายรูปแบบ กระบวนการนี้จะกระตุ้นให้ผู้ใช้ได้คิดไตร่ตรองว่า นี่คืออนาคตที่เขาต้องการจริงหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เขาก็สามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงและสร้างอนาคตใหม่ ๆ ได้ เราเรียกมันว่า Guided Hallucination ที่ซึ่ง AI จะสร้างความทรงจำในอนาคต (Future Self Memory) โดยยังคงอิงจากข้อมูลพื้นฐานของผู้ใช้”
ไม่ใช่แค่ Chatbot แต่คือ “AI for Human Flourishing”
สิ่งที่ทำให้ Future You เป็นที่ยอมรับในระดับโลก คือปรัชญา “AI for Human Flourishing” AI เพื่อการเติบโตและเติมเต็มของมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของโครงการ
กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG ย้ำว่าความสำเร็จนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ “Human-First, AI-First” ขององค์กรอย่างชัดเจน โครงการนี้ไม่ได้สร้าง AI เพื่อมาแทนที่มนุษย์หรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่มีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นคือ “AI for Human Flourishing” หรือการใช้ AI เพื่อการเติบโตและเติมเต็มศักยภาพความเป็นมนุษย์
“โลกตะวันตกอาจจะคิดถึง AI ในแง่ Productivity หรือ Bottom line (กำไร) แต่สิ่งนี้คือจิตวิญญาณของเอเชีย ที่ไม่ได้มองแค่เรื่องกำไรหรือ Productivity แต่มองถึงการดูแลผู้คน การนำ Empathy เข้าไปในเทคโนโลยี” กระทิงกล่าว พร้อมชี้ว่ารางวัลนี้เป็นเหมือนโมเมนต์สำคัญที่พิสูจน์ว่า “คนไทยทำได้” ไม่ว่าจะเป็นในแวดวงการออกแบบดิจิทัลที่ “ขุนทอง” เคยได้รับรางวัล Red Dot Award มาแล้ว หรือในวันนี้ที่เทคโนโลยี AI ซึ่งพัฒนาโดยคนไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลก
สอดคล้องกับ ดร.พัทน์ ที่ชี้ว่า เป้าหมายของ Future You ไม่ใช่การสร้าง AI มาตอบคำถาม แต่คือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้มนุษย์ “เกิดการไตร่ตรองกับตัวเอง” (Self-reflection) มากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่สวนกระแสกับ AI ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้คือ งานวิจัยของโครงการได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำอย่าง IEEE ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Future You สามารถเพิ่ม “Future Self Continuity” (ความเชื่อมโยงกับตัวตนในอนาคต) และ ลดความวิตกกังวล (Anxiety) ของผู้ใช้ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 190 ประเทศทั่วโลก
ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director, KBTG กล่าวเสริมในเชิงกลยุทธ์ว่า โครงการนี้คือหัวใจของยุทธศาสตร์ “Human- First, AI- First” ที่มุ่งนำ AI มาสร้างประโยชน์ให้สังคม โดยมี “คน” เป็นศูนย์กลางเสมอ
ความสำเร็จของ Future You จึงเป็นมากกว่ารางวัล แต่เป็นบทพิสูจน์อันทรงพลังว่าศักยภาพของคนไทยสามารถก้าวสู่แถวหน้าของโลกได้ในสมรภูมิที่ท้าทายที่สุดอย่าง AI เป็นแสงแห่งความหวังที่จุดประกายให้คนรุ่นใหม่
ต่อยอดสู่สังคมไทย: จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริงในหลากหลายมิติ
ดร.มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์ Deputy Managing Director and Head of AI R&D, KBTG ได้เปิดเผยแผนการนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยว่า ด้านการศึกษา KBTG กำลังทำโครงการร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อนำ Future You ไปช่วยสร้างแรงจูงใจและ Growth Mindset ให้กับนักเรียนมัธยมต้นกลุ่มเปราะบาง (Underprivileged) ที่มีจำนวนกว่า 300,000 คน เพื่อช่วยให้พวกเขากลับเข้าสู่ระบบการศึกษาและมองเห็นอนาคตของตนเอง
ด้านการแพทย์และสุขภาพจิต KBTG มีการเสนอแนวทางร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเสริมสำหรับนักจิตบำบัด ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสามารถพูดคุยและได้รับกำลังใจเบื้องต้นได้ทันที หรือใช้เป็นเครื่องมือสร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยในระยะยาว
สำหรับด้านการเงินและธุรกิจนั้น เทคโนโลยีนี้สามารถนำมาต่อยอดกับผลิตภัณฑ์ของ KBank เช่น MAKE by KBank เพื่อช่วยให้คนรุ่นใหม่เห็นภาพและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ KBTG ที่สร้างผลิตภัณฑ์อย่าง “เหมียวจด” เพื่อช่วยติดตามการใช้จ่าย
คุณกระทิง กล่าวว่า “รางวัลนี้ทำให้ KBTG และ KBank ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีระดับโลก ทำให้เรารู้ทิศทางของเทคโนโลยีและนโยบายก่อนใคร ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลดีกลับมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และ Ecosystem ของทั้งธนาคารและประเทศไทย”
ความสำเร็จของ Future You คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า “คนไทยทำได้” และสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI บนเวทีโลกได้ ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างเทคโนโลยี แต่เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน
“Future You คือ Future Us และคือ Future Thailand”
