กลุ่มธุรกิจการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFG) ประกาศผลประกอบการครึ่งแรกปี 2568 ด้วยกำไรสุทธิ 1,121 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 25.8% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง โดยมี “ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank)” เป็นหัวหอกสำคัญสร้างการเติบโต ขณะที่ธุรกิจหลักทรัพย์เจอความท้าทายจากตลาดหุ้นไทยที่ดิ่งหนัก
เจาะลึกความสำเร็จ LH Bank
ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 1.3 – 2.3% ในปีนี้ LHFG กลับสร้างผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจ โดยความสำเร็จส่วนใหญ่มาจาก ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) ที่มีกำไรสุทธิสูงถึง 1,103 ล้านบาท พุ่งขึ้น 30.3% จากปีก่อนหน้า
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ LH Bank มาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 3.4% โดยเฉพาะ สินเชื่อรายย่อยที่เติบโตก้าวกระโดดถึง 9.3% ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากผลิตภัณฑ์เงินฝากดิจิทัล “B-You Max” ที่สามารถดึงดูดลูกค้ารายย่อยใหม่เพิ่มขึ้นถึง 13% นอกจากนี้ สินเชื่อ SME ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เจาะจงเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม
ฉีชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ LH Bank เปิดเผยว่า ธนาคารยังได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ CTBC Bank จากไต้หวันซึ่งเป็นบริษัทแม่ในการขยายสินเชื่อธุรกิจระหว่างประเทศ (Trade Finance) โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าชาวจีน ขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยมี NPL อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.59% และมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง
อีกด้านของเหรียญ: ธุรกิจหลักทรัพย์เผชิญมรสุม
ในขณะที่ธุรกิจธนาคารเติบโต บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Securities) กลับต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ กานต์ อรรถธรรม สุนทรกรรมการผู้อำนวยการ ระบุว่า รายได้ค่านายหน้าในครึ่งปีแรกลดลงเหลือ 40.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงจากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ดิ่งหนัก โดยดัชนี SET ปรับตัวลดลงถึง 22.2% จากสิ้นปีก่อนหน้าและมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันหดตัวลงอย่างมาก
กลยุทธ์ของ LH Securities จึงต้องปรับตัวโดยหันไปเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Passive Income) เช่น เงินปันผลและค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมทั้งพัฒนาบริการใหม่ ๆ อย่างการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพารายได้จากปริมาณการซื้อขายในประเทศ
LH Fund เติบโตต่อเนื่อง-มุ่งเจาะลูกค้ารายใหญ่
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Fund) ยังคงเติบโตได้ดี โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เพิ่มขึ้น 4.5% จากสิ้นปี 2567 รวมเป็น 66,900 ล้านบาท มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลังจะมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) และลูกค้าสถาบันรวมถึงขยายธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปยังบริษัทที่ยังไม่เคยจัดตั้งกองทุน
ทิศทางครึ่งปีหลัง: เดินหน้าด้วย AI และกลยุทธ์เจาะกลุ่ม
สำหรับยุทธศาสตร์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 LHFG จะยังคงเดินหน้าด้วยความระมัดระวัง โดย LH Bank จะมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อ SME ที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบดิจิทัล “LHB Biz Connect” และยกระดับการบริการด้วยเทคโนโลยี AI
นอกจากนี้ ยังเตรียมรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งผ่านโครงการ “Family Banking” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Wealth และทายาทรุ่นต่อไปอย่างครบวงจร สะท้อนให้เห็นภาพการปรับตัวของกลุ่มธุรกิจการเงินขนาดใหญ่ที่แม้จะเติบโตได้ดีแต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างกันไปในแต่ละสายธุรกิจและพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจและตลาดที่ผันผวนอยู่เสมอ
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อายิโนะโมะโต๊ะ เปิดแผนปี 68 ลุยขยายตลาด หนุนโภชนาการกีฬา ใช้ FarmAI ลดคาร์บอน
‘On-Chain Economy-ภาษีคาร์บอน’ เมกะเทรนด์ที่ธุรกิจไทยต้องเผชิญ
