วงการเกมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะก้าวสู่มิติใหม่ เมื่อสองยักษ์ใหญ่แห่งโลกเกมอย่าง Gamescom Asia และ Thailand Game Show ประกาศผนึกกำลังครั้งประวัติศาสตร์ จัดงาน “Gamescom Asia Thailand Game Show 2025” ภายใต้ธีมสุดยิ่งใหญ่ “World of Gaming” ที่จะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเกมระดับโลกอย่างสมบูรณ์แบบ
งานมหกรรมเกมสุดยิ่งใหญ่นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 4 ฮอลล์เต็ม พร้อมตั้งเป้าผู้เข้าชมงานทะลุ 200,000 คน ตอกย้ำการเป็นอีเวนต์เกมที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
การเดินทางเกือบ 2 ทศวรรษ สู่การเป็นฮับแห่งวงการเกม
พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หรือ “หนุ่ย” ผู้ก่อตั้ง Thailand Game Show ได้เล่าย้อนถึงการเดินทางอันน่าทึ่งของงาน จากจุดเริ่มต้นในปี 2007 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แห่งนี้เอง ในฐานะ “งานเล็กๆ” ที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ในการ “ปรับภาพลักษณ์และยกระดับ” วงการเกมไทย จากที่เคยมองว่าเป็นเพียงกิจกรรมไร้สาระให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ งานในครั้งนั้นได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการดึงเหล่าเกมเมอร์ที่ “เก่งในซอยบ้านตัวเอง” ให้ออกมาสู่สปอตไลท์บนเวทีการแข่งขันระดับประเทศเป็นครั้งแรก
ตลอดเส้นทางเกือบสองทศวรรษ Thailand Game Show ไม่ได้เป็นเพียงแค่อีเวนต์ประจำปี แต่เป็นเบ้าหลอมที่สร้างคำว่า “นักกีฬาอีสปอร์ต” ให้เป็นที่ยอมรับ สร้างอาชีพใหม่ ๆ อย่าง “เกมแคสเตอร์” ที่มีแฟนคลับติดตามมหาศาล และเป็นปฏิทินสำคัญที่ค่ายเกมต่าง ๆ ใช้เปิดตัวเกมใหม่ ๆ สู่สายตาแฟน ๆ การเติบโตอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับจากนานาชาติ คือบทพิสูจน์ที่นำมาสู่การร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ในที่สุด
“เราใช้เวลาเกือบ 20 ปีในการเดินทางมาถึงจุดนี้ วันนี้โลกกำลังจะเดินทางมาหาเราที่ประเทศไทย การร่วมมือกับ Gamescom Asia ซึ่งเป็นผู้จัดงานเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเยอรมนี จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเจ้าของพื้นที่ของคำว่า ‘ใหญ่ที่สุดในเอเชีย’ อย่างแท้จริง” พงศ์สุข กล่าว
ครบทุกมิติ: B2C สุดอลังการ และ B2B ครั้งแรกในไทย
ความพิเศษของ Gamescom Asia Thailand Game Show 2025 คือการผสานสองโลกของวงการเกมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ โดยนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างแต่เชื่อมโยงถึงกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
โซน B2C (Business-to-Consumer) หรือโซน Entertainment ซึ่งจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในวันที่ 17-19 ตุลาคม คือหัวใจหลักที่แฟนเกมทุกคนรอคอย บนพื้นที่กว่า 3 ฮอลล์ที่อุทิศให้กับคอนเทนต์เกมมากกว่า 70% ของพื้นที่จัดงานทั้งหมดจะเป็นการรวมตัวของค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากทั่วทุกภูมิภาค
จากญี่ปุ่น นำโดย Bandai Namco, Capcom, The Pokemon Company และ Tokyo Game Show จากเกาหลีใต้โดย Gravity และ Wemade และจากฝั่งตะวันตกนำโดย Xbox ที่จะมาเปิดบูธอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย และ Ubisoft
นอกจากนี้ ยังมีทัพอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์และฮาร์ดแวร์ชั้นนำอย่าง Synnex, GeForce Now, AMD, Intel, Predator, Omen, SteelSeries และอีกมากมายมาให้สัมผัสและทดลองกันอย่างจุใจ
กิจกรรมภายในโซน B2C นั้นอัดแน่นไปด้วยไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ เริ่มจาก Indie Game Zone ที่เปิดพื้นที่ให้นักพัฒนาเกมอิสระกว่า 80 รายได้โชว์ผลงานสู่สายตาผู้เล่นโดยตรง
ส่วนเวทีหลักจะลุกเป็นไฟด้วยการแข่งขันเกมไฟท์ติ้งระดับตำนานอย่าง Street Fighter 6 ใน โซนเซียนเกม ขณะที่สีสันอันเป็นเอกลักษณ์อย่างการประกวด Cosplay Contest จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วย 6 ประเภทรางวัลใหม่ ทั้งประเภทเดี่ยว (Human, Non-Human, Robot, Kids) ประเภททีม และรางวัลพิเศษ Best All Star ที่เชิญแชมป์จากต่างประเทศมาประชันฝีมือบนเวทีเดียวกัน ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 300,000 บาท พร้อมกันนี้ยังมีงานประกาศรางวัลอันทรงเกียรติ Thailand Game Awards และการพบปะกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในโซน OSx Networkอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน โซน B2B (Business-to-Business) หรือโซนธุรกิจ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16-17 ตุลาคม ถือเป็น “ก้าวสำคัญทางกลยุทธ์” ที่จะยกระดับอุตสาหกรรมเกมไทยสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง โดยยกโมเดลความสำเร็จจากสิงคโปร์มาไว้อย่างครบครัน เพื่อเป็นศูนย์กลางให้นักพัฒนา ผู้จัดจำหน่าย นักลงทุน และผู้นำในวงการได้มาเจรจาธุรกิจ สร้างเครือข่าย และหาโอกาสใหม่ ๆ
ผู้เข้าร่วมจะได้พบกับ Glen Schofield ตำนานผู้สร้างเกม Dead Space และ Call of Duty ที่จะมาเป็น Keynote Speaker พร้อมทัพวิทยากรกว่า 70 คนจาก 20 ประเทศทั่วโลก
ภายในโซนยังประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงจากบริษัทชั้นนำ, การแข่งขันนำเสนอผลงานของนักพัฒนาหน้าใหม่ (Pitch Competition), และ Investor Circle ที่เปรียบเสมือน “Speed Dating” ของวงการ ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้พบปะกับนักลงทุนโดยตรง เสริมทัพด้วย Country Pavilions จากหลากหลายชาติที่จะมาจัดแสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่
ข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ร่วมงาน
สำหรับการเข้าร่วมงานมหกรรมเกมครั้งประวัติศาสตร์นี้ โซนธุรกิจ B2B จะจัดขึ้นในวันที่ 16 และ 17 ตุลาคม ในขณะที่โซนบันเทิง B2C สำหรับบุคคลทั่วไปจะเปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 17 ถึง 19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บัตรเข้าชมงานสำหรับโซน B2C จะจำหน่ายในราคา 200 บาทถ้วน โดยจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ผ่านทางแอปพลิเคชัน ZipEvent ส่วนผู้ที่สนใจเข้าร่วมโซนธุรกิจ B2B สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์ Business Visitor Pass สำหรับเข้าชมฟรี หรือซื้อบัตรประเภท Conference Delegate และ VIP ได้ที่เว็บไซต์ของงานโดยตรง
“นี่คือปรากฏการณ์ที่โลกมาพบกับเรา อยากเชิญชวนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์ นักพัฒนา ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่สนใจมาร่วมเป็นเจ้าภาพและแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมเกมไทยให้โลกได้เห็นพร้อมกัน”
พงศ์สุข กล่าวทิ้งท้ายว่า Gamescom Asia Thailand Game Show 2025 ไม่ใช่แค่งานเกม แต่เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และตอกย้ำตำแหน่งของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมและวงการเกมของทวีปเอเชียอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อนาคตท่องเที่ยวไทย: ชู ‘เมืองรอง’ สู่จุดหมายใหม่ด้วย Big Data และ Storytelling
อว. พร้อมจัด 2 งานใหญ่ ‘อว.แฟร์’ และ ‘มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ 9-17 ส.ค. นี้ ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์
