Share on
×

Share

OpenAI เปิดตัว GPT-5 โมเดล AI รุ่นใหม่ ชูประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว GPT-5 ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นล่าสุดในตระกูล Generative Pre-trained Transformer การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการนำเสนอระบบที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในหลายด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยในการใช้งาน

สถาปัตยกรรมระบบแบบผสมผสาน (Unified System Architecture)

GPT-5 ใช้สถาปัตยกรรมแบบ “Unified System” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของโมเดลย่อยหลายส่วน ระบบประกอบด้วยโมเดลหลักสำหรับตอบสนองต่อคำสั่งทั่วไป และโมเดลสำหรับการใช้เหตุผลเชิงลึก (GPT-5 Thinking) สำหรับจัดการกับคำสั่งที่มีความซับซ้อนสูง โดยมีส่วนประกอบที่เรียกว่า “เราเตอร์” (Router) ทำหน้าที่คัดแยกและส่งต่อคำสั่งไปยังโมเดลที่เหมาะสมแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การประมวลผลมีความสอดคล้องกับลักษณะของงาน

ปรับปรุงประสิทธิภาพในฟังก์ชันหลัก

OpenAI ระบุว่า GPT-5 ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในฟังก์ชันการใช้งานหลักหลายด้าน ในด้านการเขียนโค้ด โมเดลมีความสามารถในการสร้างโค้ดสำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยคำนึงถึงองค์ประกอบด้านการออกแบบ เช่น การจัดวางและโครงสร้าง สำหรับงานเขียน โมเดลถูกพัฒนาให้สามารถจัดการโครงสร้างทางภาษาที่ซับซ้อนและคงรูปแบบของงานเขียนตามคำสั่งได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการร่างเอกสารต่างๆ เช่น รายงานและอีเมล ส่วนในด้านสุขภาพ GPT-5 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นเครื่องมือให้ข้อมูลเบื้องต้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำความเข้าใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ทั้งนี้ OpenAI เน้นย้ำว่าโมเดลดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ทดแทนบุคลากรทางการแพทย์

OpenAI เปิดตัว ChatGPT Pro ปลดล็อกศักยภาพ AI ขั้นสูงสำหรับมืออาชีพ

เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของโมเดล

เป้าหมายสำคัญของการพัฒนา GPT-5 คือการเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลและลดโอกาสการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน (Hallucinations) โดยโมเดลได้รับการฝึกให้สามารถสื่อสารข้อจำกัดของตนเองได้ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งหรือขาดข้อมูลที่จำเป็น ผลการประเมินภายในของ OpenAI ระบุว่าโมเดลทำคะแนนได้สูงขึ้นในชุดข้อสอบมาตรฐานหลายรายการ เช่น A2025 (คณิตศาสตร์), SubUEbench (การเขียนโค้ด) และ HealthBench (สุขภาพ) นอกจากนี้ ยังได้มีการนำเสนอกลไกความปลอดภัยใหม่ที่เรียกว่า “Safe Completions” ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้โมเดลสามารถให้คำตอบที่เป็นประโยชน์ภายใต้ขอบเขตความปลอดภัย สำหรับคำสั่งที่อาจมีความละเอียดอ่อนหรือสามารถนำไปใช้ได้หลายทาง (Dual-use)

ปรับปรุงรูปแบบการตอบสนองและการปรับแต่งโดยผู้ใช้

GPT-5 ได้รับการปรับปรุงเพื่อลดพฤติกรรมการตอบสนองในเชิงเอาใจผู้ใช้ (Sycophancy) เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความเป็นกลางมากขึ้น ขณะเดียวกันได้มีการเพิ่มฟังก์ชันให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการโต้ตอบของโมเดลได้ โดยได้เปิดตัว “Preset Personalities” 4 รูปแบบให้ผู้ใช้เลือก ได้แก่ Cynic, Robot, Listener และ Nerd เพื่อให้สไตล์การสื่อสารตรงตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน

GPT-5 Pro: โมเดลสำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง

นอกเหนือจากรุ่นมาตรฐาน OpenAI ยังได้เปิดตัว GPT-5 Pro ซึ่งเป็นโมเดลที่ออกแบบมาสำหรับรองรับงานที่มีความซับซ้อนสูงโดยเฉพาะ โดยจะใช้ทรัพยากรในการประมวลผลมากขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่จัดทำโดย OpenAI พบว่าคำตอบจาก GPT-5 Pro ได้รับการยอมรับมากกว่าในโจทย์ที่ต้องการการใช้เหตุผลเชิงลึก

การเปิดตัว GPT-5 และ GPT-5 Pro แสดงถึงทิศทางการพัฒนาของ OpenAI ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถของโมเดล ควบคู่ไปกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการใช้งานจริง

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘Breakthrough Energy’ ชี้ Climate Tech คือโอกาสลงทุนครั้งใหญ่ในอาเซียน

พลิกโฉมธุรกิจด้วย Agentic AI : เจาะลึกเทคโนโลยี AI ทำงานเองจาก NVIDIA

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน