ในความพยายามครั้งสำคัญเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของไทยบนเวทีโลก SCB 10X บริษัทเทคโนโลยีภายใต้กลุ่ม SCBX ได้ประกาศความร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) นำปัญญาประดิษฐ์สัญชาติไทย “Typhoon” เข้ามาเป็นสมองกลหลักให้กับ “RISA Chatbot” แอปพลิเคชันติวเข้มที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนไทยสำหรับการสอบ PISA 2025 โดยเฉพาะ
ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาและยกระดับทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนไทย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประเมินผลนักเรียนระหว่างประเทศ (PISA) โดย RISA Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI Typhoon จะทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยครูและติวเตอร์ส่วนตัวของนักเรียน สามารถตรวจข้อสอบที่เน้นการให้เหตุผลและแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ พร้อมให้คำแนะนำที่จำเพาะเจาะจงกับนักเรียนแต่ละคน ช่วยให้นักเรียนเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองได้อย่างแม่นยำ
เสียงตอบรับดีเกินคาด ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
แม้จะเป็นโครงการที่เพิ่งประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ แต่ RISA Chatbot ได้เปิดให้นักเรียนทดลองใช้งานแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยปัจจุบันมีนักเรียนเข้าใช้งานแล้วกว่า 9,700 คน จากกว่า 300 โรงเรียน ใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเครื่องมือการเรียนรู้ยุคใหม่ที่เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ
ลดภาระครู สร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา
รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการเล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี AI ในการปฏิรูปการศึกษา การนำ AI มาใช้ในกระบวนการประเมินผลไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระงานของครู แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมหาศาล
“โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญของนโยบาย ‘AI for Education’ ที่จะช่วยพัฒนาองค์ความรู้ให้ตอบโจทย์การประเมินรูปแบบใหม่อย่าง PISA ที่สำคัญคือการสร้างโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงเครื่องมือการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระยะยาว” รศ.ดร.ประวิต กล่าว
AI สัญชาติไทยเพื่ออนาคตของชาติ
ทางด้าน กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB 10X เปิดเผยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเองมาสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในวงกว้าง Typhoon เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่วิจัยและพัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์บริบทของคนไทยโดยเฉพาะ
“เราภูมิใจที่ได้นำ AI สัญชาติไทยมาสนับสนุนภารกิจสำคัญด้านการศึกษาของชาติ ความร่วมมือกับสภาการศึกษาครั้งนี้เป็นการตอกย้ำว่าเทคโนโลยีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในระดับประเทศได้จริง และสะท้อนความตั้งใจของเราที่จะร่วมสร้างคุณค่าและขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้า” กวีวุฒิ กล่าว
ความร่วมมือระหว่าง SCB 10X และสภาการศึกษาในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การลงนามในบันทึกความเข้าใจ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาการศึกษาของชาติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งผลลัพธ์ของการสอบ PISA 2025 ที่จะถึงนี้ อาจเป็นเครื่องพิสูจน์แรกของความสำเร็จในก้าวที่สำคัญนี้
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คลังเตรียมขาย ‘G-Token’ ผ่าน ICO Portal ดึง Token X ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ
วิธีคิดแบบ Flash Express: สร้างธุรกิจโตเร็วด้วย ‘จังหวะ’ และ ‘เทคโนโลยี’
