ท่ามกลางบรรยากาศอันคึกคัก ณ ออฟฟิศ AWS (ประเทศไทย) บริษัท บอทน้อย กรุ๊ป จำกัด ได้จัดงาน “AI Day by Botnoi” เผยวิสัยทัศน์และนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ล่าสุดที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวงการสาธารณสุขไทย
โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว “AI Agent” โซลูชันอัจฉริยะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แชทบอท แต่คือผู้ช่วยเสมือนจริงที่พร้อมจะเข้ามาลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ เพิ่มประสิทธิภาพการดูแล และสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ป่วย
เบื้องหลังความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับวงการแพทย์นั้น มีจุดเริ่มต้นที่ลึกซึ้งและเป็นส่วนตัวอย่างยิ่งสำหรับ ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย CEO แห่ง Botnoi Group
–จากวิสัยทัศน์ สู่การสร้างชาติด้วย AI: เจาะลึกเส้นทาง ‘บอทน้อย’ และ ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย
จากเรื่องราวในครอบครัว สู่ปณิธานที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“ตอน ม.6 คุณแม่ผมเป็นมะเร็งเต้านม” ดร.วินน์เริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่เปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นได้จุดประกายความฝันที่จะเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้คน แม้สุดท้ายโชคชะตาจะนำพาเขามาสู่เส้นทางของนักเทคโนโลยี แต่ความตั้งใจที่จะสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไม่เคยจางหายไป
“ผมรู้สึกมาตลอดว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นแพทย์ แต่เราสามารถทำอะไรเพื่อสนับสนุนแพทย์ได้ ก็ถือเป็นความตั้งใจของผม” ความรู้สึกนั้นได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้บอทน้อยทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยี AI ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จนตกผลึกเป็นนวัตกรรมที่พร้อมตอบโจทย์ความท้าทายที่วงการแพทย์กำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาบุคลากรขาดแคลน ภาระงานที่หนักอึ้ง หรือความซับซ้อนในการสื่อสารกับผู้ป่วย ซึ่งโซลูชันเหล่านี้ได้ถูกนำมาจัดแสดงอย่างครบครันภายในงาน
- พยาบาล AI (Data Human): มนุษย์จำลอง AI รุ่นล่าสุด ที่สามารถซักประวัติและคัดกรองอาการเบื้องต้นของผู้ป่วย ช่วยลดขั้นตอนและแบ่งเบาภาระของพยาบาลหน้างาน
- แชตบอทแลกเวร: ระบบที่พัฒนาร่วมกับโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ ช่วยให้การจัดการตารางเวรของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ
- ระบบค้นหาข้อมูลภายใน (Internal Search): เปรียบเสมือน Google สำหรับโรงพยาบาล ช่วยให้บุคลากรสามารถค้นหาข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- Voice Bot Outbound: เทคโนโลยีการสื่อสารเชิงรุกด้วยเสียง ที่สามารถโทรแจ้งเตือนนัดหมาย หรือติดตามอาการผู้ป่วยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- Live Translation: นวัตกรรมการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ที่สามารถปรับจูนให้เข้าใจคำศัพท์เฉพาะทางทางการแพทย์ได้ เพื่อทลายกำแพงภาษาในการสื่อสาร
AI Agent: นิยามใหม่ที่เหนือกว่าแชตบอท
หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีที่บอทน้อยภูมิใจนำเสนอในครั้งนี้คือ “AI Agent” ซึ่ง ดร.วินน์ ได้ให้คำนิยามว่าไม่ใช่แค่โปรแกรมสนทนา แต่คือแกนกลางของปัญญาประดิษฐ์ที่เปรียบเสมือน “มนุษย์” คนหนึ่ง ที่มีความสามารถรอบด้าน
โดยมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนที่ทำงานประสานกันดุจประสาทสัมผัสของมนุษย์:
- การฟัง (Speech Recognition): ความสามารถในการแปลงเสียงพูดให้เป็นข้อความได้อย่างแม่นยำ
- การคิดวิเคราะห์ (Large Language Model – LLM): สมองกลอัจฉริยะที่ใช้ในการประมวลผลและทำความเข้าใจบริบทของบทสนทนา
- การพูด (Text-to-Speech): เทคโนโลยีการสร้างเสียงพูดที่เสมือนจริงและเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การนำ LLM อย่าง ChatGPT มาใช้งานโดยตรงกับลูกค้านั้นมีความเสี่ยงที่น่ากังวล ดร.วินน์ได้ยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นจริงในการทดสอบระบบกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ซึ่งบอทได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ “นี่คือความเสี่ยงมหาศาลที่เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้”
ด้วยเหตุนี้ บอทน้อยจึงได้พัฒนาระบบ Multi-Agent System ซึ่งเป็นการสร้าง AI Agent ขนาดเล็กหลาย ๆ ตัวที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำงานภายใต้ชุดคำสั่งที่ชัดเจนและไม่ซับซ้อน ผสานกับการใช้กฎเกณฑ์ (Rule-based) เพื่อควบคุมการทำงานให้อยู่ในกรอบที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สูงสุด พร้อมชูจุดแข็งด้าน ความปลอดภัย (Security) ที่สามารถติดตั้งระบบทั้งหมดภายในเซิร์ฟเวอร์ของโรงพยาบาล (On-premise) เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ป่วยรั่วไหลออกไปภายนอก
ปลดล็อกศักยภาพ AI สู่การใช้งานจริงในโรงพยาบาล
ภายในงานยังได้มีการสาธิตกรณีศึกษา (Use Case) ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI Agent ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำงานในวงการสาธารณสุขได้อย่างเป็นรูปธรรม
- ผู้ช่วยเลื่อนนัดอัจฉริยะ: Voice Bot สามารถโทรออกไปเจรจาและจัดการตารางนัดใหม่กับคนไข้หลายสิบคนได้โดยอัตโนมัติ ช่วยแก้ปัญหาใหญ่ที่คุณหมอหลายท่านต้องเผชิญเมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน
- การติดตามผู้ป่วยเรื้อรังเชิงรุก: สำหรับผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานและไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยี AI Agent สามารถทำหน้าที่โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลสุขภาพในแต่ละวัน เช่น ค่าน้ำตาล ความดัน หรืออาหารที่รับประทาน เพื่อให้แพทย์มีข้อมูลที่ต่อเนื่องในการวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ
- ทลายกำแพงภาษาในห้องตรวจ: เทคโนโลยี Live Translation ช่วยให้การสนทนาระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยชาวต่างชาติเป็นไปอย่างราบรื่น โดยการแปลบทสนทนาและแสดงผลเป็นคำบรรยาย (Subtitle) แบบเรียลไทม์
- พลิกบทบาทสู่ “คนไข้จำลอง”: AI ยังสามารถทำหน้าที่เป็น “คนไข้จำลอง” ที่มีความหลากหลายของอาการ เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ฝึกฝนทักษะการซักประวัติและวินิจฉัยโรคได้อย่างสมจริง
วิสัยทัศน์และนวัตกรรมที่บอทน้อยนำเสนอในวันนี้ คือบทพิสูจน์ว่า AI ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแทนที่มนุษย์ แต่เพื่อเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการ “Empower” และปลดปล่อยศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ ให้พวกเขาสามารถทุ่มเทเวลาและสมาธิไปกับภารกิจที่สำคัญที่สุด นั่นคือการดูแลรักษาชีวิตของผู้ป่วยด้วยหัวใจและความเชี่ยวชาญอย่างเต็มเปี่ยม
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สวทช. ประกาศวิสัยทัศน์วาระ 2 ชู ‘วิจัยใช้ได้จริง’ แก้ปัญหาชาติด้วยเทคโนโลยี
เปิดยุทธศาสตร์ ‘AI Nation’ อัดงบ 2.5 หมื่นล้านดันไทยขึ้นฮับดิจิทัลภูมิภาค