สถานการณ์ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมและดินถล่มที่บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เข้าขั้นวิกฤติ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับและระบบสื่อสารถูกตัดขาดในบางพื้นที่ ล่าสุด ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อกู้สถานการณ์และรักษาเสถียรภาพของเครือข่ายการสื่อสารให้กลับมาใช้งานได้ต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการประสานงานกู้ภัยและให้ประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือ
หัวใจสำคัญของการปฏิบัติการครั้งนี้คือการทำให้สถานีฐานหลักซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนสามารถทำงานได้ตามปกติ แม้จะเผชิญกับภาวะไฟฟ้าดับจากพายุฝน โดยทีมช่างเทคนิคได้นำเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินเข้าติดตั้งที่เสาสัญญาณหลักในพิกัดบ้านปางอุ๋ง เพื่อให้สามารถกระจายสัญญาณทั้งการโทร (Voice) และอินเทอร์เน็ต (Data) ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้นำรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (Cell-On-Wheel: COW) เข้าไปเสริมกำลังสัญญาณในจุดสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายให้ครอบคลุมและรองรับการใช้งานที่หนาแน่นในช่วงภาวะฉุกเฉิน
การเคลื่อนไหวของทรูฯ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเชิงรุก หลังศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือออกประกาศเตือนเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือช่วงวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายนนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัด
บริษัทได้จัดตั้งวอร์รูมและใช้ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) ที่มีระบบ AI ช่วยบริหารจัดการและเฝ้าระวังเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระดมทีมเน็ตเวิร์กและเตรียมมาตรการรับมือไว้อย่างเต็มกำลัง ทั้งเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง แบตเตอรี่ ยานพาหนะขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารหรือมีน้ำท่วมสูง รวมถึงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง กสทช. และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
จาก K-9 สู่เยาวชน: ‘เสียงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่’ กับยุทธศาสตร์ ‘อยู่รอดร่วมกัน’
‘ความมั่นคงทางอาหาร’ ฉบับยั่งยืน: เมื่อคนปลูกคนกินและธรรมชาติต้องไปด้วยกัน
