Share on
×

Share

LINE MAN Wongnai หนุน “คนละครึ่ง” คัมแบ็ก ชี้ทางรอดร้านอาหาร

ยอด ชินสุภัคกุล CEO LINE MAN Wongnai โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว สนับสนุนสมาคมภัตตาคารไทยเต็มที่ หลังยื่นหนังสือถึงรัฐบาลใหม่ จี้ปัดฝุ่นโครงการ “คนละครึ่ง” ชี้เป็นทางรอดเร่งด่วนของผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่กำลังเผชิญวิกฤติยอดขายดิ่งเหวอย่างหนัก พร้อมเปิดสถิติร้านเล็กโตพุ่ง 4 เท่าช่วงมีโครงการ ขณะที่ยอดเดลิเวอรีโตเฉลี่ย 2.5 เท่า ประกาศยินดียกข้อมูลร้านอาหารที่อัปเดตแล้วให้รัฐฟรี เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินโครงการ

สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารทั่วประเทศกำลังอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง เมื่อยอดขายตั้งแต่ต้นปี 2568 ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ยอดขายเฉลี่ยทั่วประเทศทรุดตัวลงถึง 14% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและกำลังซื้อที่หดตัวลงอย่างหนัก

ล่าสุด ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นสนับสนุนข้อเสนอของสมาคมภัตตาคารไทย ที่ได้ยื่นเรื่องต่อรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้พิจารณานำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้อีกครั้ง โดยมองว่าเป็นนโยบายที่จำเป็นอย่างยิ่งในการพยุงลมหายใจให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในเวลานี้

ยอดเปิดเผยข้อมูลสถิติที่น่าสนใจจาก LINE MAN Wongnai ซึ่งสะท้อนภาพความยากลำบากของร้านอาหารในปีนี้อย่างชัดเจน โดยพบว่าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 พื้นที่กรุงเทพมหานครมียอดขายลดลงหนักกว่าต่างจังหวัดถึง -16% ขณะที่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ยอดขายร่วงลง -19% และที่น่าตกใจคือพื้นที่ยอดนิยมอย่าง “บรรทัดทอง” กลับมียอดขายลดลงมากถึง -35%

“เท่าที่คุยกับเจ้าของร้านอาหารหลาย ๆ คน ปีนี้มันยากจริง ๆ ครับ”

“คนละครึ่ง” คือแสงสว่าง กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง

ในฐานะที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งในครั้งที่ผ่านมา LINE MAN Wongnai พบว่านโยบายดังกล่าวสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลเชิงลึกชี้ว่า ยอดขายของร้านอาหารขนาดเล็กเติบโตขึ้นถึง 1.7-4 เท่า ในช่วงที่มีโครงการ ขณะที่ยอดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรีเพียงอย่างเดียว เติบโตเฉลี่ย 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

ยอดมองว่า โครงการในลักษณะ Co-payment เป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผล 3 ประการหลัก คือ เป็นการ “หนุน” ให้ผู้ประกอบการที่พอมีกำลังช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง สามารถกลับมาคล่องตัวและมีกำลังใจในการต่อยอดธุรกิจในระยะยาว เป็นการป้องกันการทุจริต (Fraud) การที่ผู้บริโภคต้องร่วมจ่ายครึ่งหนึ่ง และร้านค้าต้องลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ ช่วยป้องกันการทุจริตได้ในระดับหนึ่ง และเป็นการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนกว่า เพราะการจำกัดวงเงินใช้จ่ายรายวัน (ครั้งก่อน 150 บาท) ช่วยให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ยาวนานกว่าการให้เงินช่วยเหลือโดยตรงเพียงครั้งเดียว

พร้อมหนุนรัฐเต็มที่ ยกข้อมูลร้านค้าให้ฟรี

ซีอีโอ LINE MAN Wongnai ยังได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า หากรัฐบาลซึ่งอาจมีระยะเวลาบริหารงานที่จำกัด ตัดสินใจนำโครงการนี้กลับมา การใช้ระบบไอทีเดิมที่เคยมีอยู่แล้วจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในแง่ของเวลา พร้อมเสนอตัวเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“หากรัฐบาลจะทำโครงการนี้จริง ๆ LINE MAN Wongnai มีข้อมูลร้านอาหารที่อัปเดตเป็นปัจจุบันอยู่แล้ว ก็ยินดียกข้อมูลนี้ให้ทั้งหมด เพื่อที่ร้านค้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนยันตัวตนใหม่ครับ” ยอด กล่าว

การออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสียงสะท้อนจากภาคเอกชน แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตรงจุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารหลายแสนรายทั่วประเทศให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ ซึ่งเสียงเรียกร้องจากทั้งผู้ประกอบการและประชาชนที่เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ในโซเชียลมีเดีย คงเป็นสิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องรับฟังและพิจารณาอย่างเร่งด่วน

‘Central Dolce Italia 2025’ เซ็นทรัลผนึกกำลังอิตาลี จัดใหญ่อีเวนต์ไลฟ์สไตล์แห่งปี

Davaland คืนวงการ ส่งบ้านเดี่ยวหรู 3 โครงการชูนวัตกรรมเริ่ม 24.9 ล้าน

×

Share

ผู้เขียน