Beyond Food: LINE MAN Wongnai เจาะตลาดความงามมูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อกิจการ “JERA Cloud” ผู้นำระบบ POS คลินิก
LINE MAN Wongnai สร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ประกาศเข้าซื้อกิจการ JERA Cloud ผู้นำอันดับหนึ่งด้านระบบบริหารจัดการและ POS สำหรับคลินิกความงามและทันตกรรมในประเทศไทย นับเป็นการขยายธุรกิจออกจากอุตสาหกรรมอาหารเป็นครั้งแรก เพื่อรุกเข้าสู่ตลาดสุขภาพและความงาม (Beauty & Wellness) ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมสานต่อภารกิจ “Digitalize Thailand” อย่างเต็มรูปแบบ
ดีลดังกล่าวเป็นการผนึกกำลังระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านฟู้ดเดลิเวอรี่และโซลูชันร้านอาหาร กับสตาร์ตอัพดาวรุ่งผู้กุมส่วนแบ่งตลาดคลินิกความงามอย่างเหนียวแน่น โดยทีมผู้บริหารได้ร่วมกันฉายภาพถึงวิสัยทัศน์ เบื้องหลัง และอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการในครั้งนี้
ทำไมต้องเป็น “ความงาม”? เปิดเหตุผลเชิงกลยุทธ์ของ LINE MAN Wongnai
การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ ไม่ใช่การก้าวเดินที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นไปตามยุทธศาสตร์การเติบโตที่วางไว้อย่างชัดเจน ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่ากลยุทธ์การขยายธุรกิจของบริษัทตั้งอยู่บน 3 แกนหลัก คือ 1) Customer Expansion (การขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมเดิม) 2) Product Expansion (การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ลูกค้ากลุ่มเดิม) และ 3) Industry Expansion (การขยายสู่อุตสาหกรรมใหม่) ซึ่งการเข้าซื้อ JERA Cloud คือการเดินเกมครั้งสำคัญในแกนที่สาม
“M&A หรือการควบรวมกิจการ เป็น DNA ของเราในการเติบโตมาโดยตลอด ตั้งแต่การรวมกับ LINE MAN, การซื้อ FoodStory มาเป็น Wongnai POS เราจึงรู้สึกว่าการที่เราจะกระโดดเข้าไปในธุรกิจใหม่ ควรจะนำด้วยการ M&A กับผู้นำตลาด การตัดสินใจเลือก “ตลาดความงาม” และเลือก “JERA Cloud” มาจากปัจจัยเชิงกลยุทธ์ที่ลงตัวในทุกมิติ”
มิติแรก ตัวเลขตลาดที่น่าดึงดูด ตลาดความงามเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างซบเซา และตลาดร้านอาหารเติบโตในอัตราเพียง 1-2% ต่อปี แต่ตลาดความงามกลับเป็นดาวเด่นที่เติบโตสูงถึง 12% ต่อปี
“ผมยังนึกไม่ค่อยออกเลยว่ามีตลาดไหนอีกในประเทศไทยที่ใหญ่เกือบแสนล้านบาทแล้วยังโตระดับเลขสองหลักได้ในปีนี้” คุณยอดเน้นย้ำถึงศักยภาพที่หาได้ยากของตลาดนี้
มิติต่อมา คือ การเลือกผู้นำที่ชัดเจน JERA Cloud คือเบอร์หนึ่งตัวจริง ข้อมูลเชิงลึกแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ JERA Cloud ในตลาดของตนเองได้อย่างน่าทึ่ง ปัจจุบัน Wongnai POS ประมวลผลยอดขายในธุรกิจร้านอาหารคิดเป็นมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านบาท หรือราว 1 ใน 4 ของตลาดรวม ในขณะที่ JERA Cloud ประมวลผลยอดขายในธุรกิจความงามถึง 26,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของตลาดทั้งหมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า JERA Cloud มีความสามารถในการเจาะตลาด (Penetration) ที่สูงมากและเป็นผู้นำที่ทิ้งห่างคู่แข่งอย่างชัดเจน
มิติสุดท้าย ปัจจัยด้านคน วัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน เหนือกว่าตัวเลขและกลยุทธ์ ซึ่งคุณยอดให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านคนมากที่สุด
“เวลาจะซื้อกิจการ เราดู 3 อย่างคือ อุตสาหกรรม บริษัท และ คน แต่สิ่งที่ผมให้คุณค่ามากที่สุดคือคน พวกเขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานหนัก มีความถ่อมตน และมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำงานร่วมกันในระยะยาวและสร้างการเติบโตแบบ 1+1 เป็น 3 ได้จริง”
จากห้องเรียนสู่ผู้นำตลาด: เรื่องราวของ JERA Cloud ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

ผศ.ดร.บัณฑิต ฐานะโสภณ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ละมุนภัณฑ์ ไอที จำกัด ผู้พัฒนา JERA Cloud ได้บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของบริษัทที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทอย่างแท้จริง จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน จากการพบกันโดยบังเอิญที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างตัวเขาซึ่งเป็นอาจารย์สอนพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กับคุณเอ๋ย ผู้ร่วมก่อตั้งอีกท่าน ซึ่งในขณะนั้นกำลังประสบปัญหาในการหาซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์คลินิกเสริมความงามของภรรยา เนื่องจากโปรแกรมในตลาดถูกออกแบบมาสำหรับคลินิกเวชกรรมทั่วไปมากกว่า
จาก Pain Point ดังกล่าว นำไปสู่ข้อตกลงในการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับคลินิกความงามโดยเฉพาะ แต่เส้นทางในช่วงแรกนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย
“ช่วงแรกเหนื่อยมาก 100 คลินิกแรก คุณเอ๋ยวิ่งขายเองคนเดียวทั้งหมด ส่วน 10 คลินิกแรกนั้นขายยากมาก เพราะโปรแกรมยังไม่สมบูรณ์ เราไปนั่งรอคุณหมอ 2 ชั่วโมง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ซื้อก็มี วันไหนผมไม่มีสอน ผมก็ต้องวิ่งออกไปช่วยขายเอง” ผศ.ดร.บัณฑิต เล่าถึงความยากลำบากในยุคบุกเบิก ที่ทีมผู้ก่อตั้งไม่เพียงแต่ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ยังต้องลงพื้นที่ขายงานและอบรมการใช้งานให้ลูกค้าด้วยตนเอง
บททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดมาถึงในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่คลินิกจำนวนมากต้องปิดให้บริการ
“ช่วงโควิดคือเหนื่อยมากจริง ๆ คลินิกที่ต้องต่อสัญญาก็ไม่ต่อ เราก็ฮึดสู้ เรายอมยืดเวลาชำระเงินให้ลูกค้าตราบใดที่รัฐบาลยังสั่งปิด ส่วนพวกผมผู้ก่อตั้งก็ไม่รับเงินเดือน เพื่อเก็บเงินสดไว้จ่ายให้ลูกน้องทุกคน”
การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวและการยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าในยามลำบาก ได้สร้างความเชื่อมั่นและกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ JERA Cloud สามารถกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมกับตลาดความงามที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการระบาด
การเติบโตอย่างรวดเร็วหลังวิกฤติยังนำมาซึ่งโจทย์ใหม่ นั่นคือคลินิกมีความต้องการระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ JERA Cloud จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ CRM ที่ครอบคลุมทั้งระบบสะสมแต้ม บัตรสมาชิก และเวาเชอร์ ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของผลิตภัณฑ์ และด้วยการรับฟังปัญหาของลูกค้าและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนี้เอง ที่ผลักดันให้ JERA Cloud ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดได้อย่างสมภาคภูมิ จนนำมาสู่การเจรจากับ LINE MAN Wongnai ซึ่ง ผศ.ดร.บัณฑิต ย้ำว่า “เรารู้สึกว่าวิสัยทัศน์ของเขา คือสิ่งที่เราอยากจะทำและไปให้ถึง”
แผนงานหลังควบรวม: ต่อยอด Ecosystem สู่บริการที่ครบวงจร
เอกลักษณ์ วิริยะโกวิทยา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ Merchant Digital Solutions, LINE MAN Wongnai กล่าวว่า แผนธุรกิจหลังจากนี้ว่าจะมุ่งเน้นใน 2 เรื่องหลักเพื่อเร่งการเติบโต ได้แก่ การลงทุนด้านการตลาด และการเสริมความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยี
ด้านการตลาดจะมีการเพิ่มงบประมาณและทีมงานขายและการตลาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคลินิกได้อย่างใกล้ชิดกว่าเดิม จากเดิมที่ทีม JERA Cloud ดำเนินงานแบบ Lean (มีประสิทธิภาพสูงในทีมขนาดเล็ก) การอัดฉีดทรัพยากรเพิ่มจะช่วยให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ส่วนด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ การควบรวมครั้งนี้จะเปรียบเสมือนการติดเทอร์โบให้กับ JERA Cloud โดยทีมสถาปนิกและผู้เชี่ยวชาญจาก LINE MAN Wongnai จะเข้าไปช่วยเร่งให้แผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทีม JERA Cloud วางไว้อยู่แล้ว สามารถสำเร็จได้รวดเร็วและมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายสำคัญคือการเชื่อมต่อ JERA Cloud เข้ากับ Ecosystem ทั้งหมดของ LINE MAN Wongnai เพื่อสร้างประโยชน์ทั้งฝั่งร้านค้าและผู้บริโภค
คุณยอด กล่าวว่า การเชื่อมต่อ Ecosystem ในระยะแรก JERA Cloud จะเข้ามาอยู่ในกลุ่มธุรกิจ Merchant Solutions แต่ในอนาคตจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับอีก 2 ธุรกิจหลักอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Pay & Financial Services โดยจะมีการผนวกรวมระบบชำระเงินหลากหลายรูปแบบเข้ากับ POS ของคลินิก ไม่ว่าจะเป็น LINE Pay เครื่องรูดบัตร (EDC), QR Code Payment และอาจต่อยอดไปถึงบริการทางการเงินอื่น ๆ เช่น สินเชื่อสำหรับคลินิกที่ต้องการขยายกิจการ
และกลุ่มธุรกิจ On-demand Services ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับผู้บริโภค ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวเสริมว่ามีแผนที่จะให้คลินิกสามารถโพสต์ขายเวาเชอร์หรือดีลต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN ได้ ซึ่งหมายความว่าในอนาคต ผู้ใช้งานอาจสามารถค้นหา จองคิว หรือซื้อดีลเสริมความงามจากคลินิกต่าง ๆ ผ่านแอปฯ LINE MAN ได้โดยตรง ไม่ต่างจากการสั่งอาหารในปัจจุบัน
เจาะลึกเทรนด์ตลาดความงาม: Gen Z และผู้ชายคือคลื่นลูกใหม่
ในฐานะผู้ถือข้อมูลโดยตรง ผศ.ดร.บัณฑิต ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกจากระบบ JERA Cloud ที่ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของฐานลูกค้าในตลาดความงามไว้อย่างน่าสนใจ
เทรนด์แรกคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่ม Gen Z โดยพบว่ามีอัตราการเติบโตในการเข้าใช้บริการสูงถึง 45% ต่อปี ซึ่งสูงกว่ากลุ่มวัยอื่นที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยราว 20% กว่าเท่าตัว ปัจจัยสำคัญมาจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดียที่ทำให้คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์อย่างมาก โดยพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มนี้ยังแตกต่างตามช่วงวัย สำหรับกลุ่มที่ยังเป็นนักเรียน-นักศึกษา (อายุ 18-20 ปี) จะเน้นการรักษาสิวเป็นหลัก แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน จะขยับไปสู่บริการที่เกี่ยวกับผิวพรรณและความงามบนใบหน้ามากขึ้น เช่น โบท็อกซ์ และฟิลเลอร์
เทรนด์ที่สองคือการขยายตัวของตลาดผู้ชาย ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็นอัตราส่วนผู้ชาย 1 คน ต่อผู้หญิง 4 คน หรือประมาณ 20% ของลูกค้าทั้งหมด ข้อมูลที่น่าสนใจยิ่งขึ้นคือฐานลูกค้าผู้ชายมีความหลากหลาย โดยคุณหมอจาก Aura Bangkok Clinic ให้ข้อมูลเสริมว่า ลูกค้าผู้ชายที่เข้ามาใช้บริการแบ่งเป็นสัดส่วน “ครึ่งต่อครึ่ง” ระหว่างกลุ่มชายแท้และกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการดูแลตัวเองได้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายทุกกลุ่ม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพศใดเพศหนึ่งอีกต่อไป
เสียงจากลูกค้า: พลังของระบบที่ปลดล็อกการเติบโต 10 เท่า
เจตบดินทร์ ประคุณศึกษาพันธ์ ผู้ก่อตั้งและ CEO ของกลุ่มธุรกิจ Aura Wellness เป็นลูกค้าที่ใช้บริการ JERA Cloud มานานกว่า 7 ปี เล่าว่า การที่คลินิกสามารถเติบโตจากหลักร้อยล้านสู่ระดับพันล้านบาทได้ภายใน 4-5 ปี มีรากฐานสำคัญมาจากระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่งและเสถียรจาก JERA Cloud
“ระบบเสถียรมาก มีการการันตี Uptime เกิน 99.9% ทำให้เราไม่ต้องพะวงหลังบ้านเลยว่าฝั่งบัญชีหรือระบบจะมีปัญหาอะไรไหม สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือลูกค้าจ่ายเงินแล้วเงินไม่เข้าระบบ หรือคอร์สลูกค้าหาย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับ JERA เลยตลอด 7 ปี”
ความน่าเชื่อถือนี้เองที่ทำให้ทีมงานสามารถมุ่งพัฒนาการบริการลูกค้าและวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างเต็มที่
เจตบดินทร์ ยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมว่า เมื่อไม่นานมานี้ ทางคลินิกได้ร่วมมือกับ JERA Cloud พัฒนาและเปิดตัวระบบ Booking Online ใหม่ เพื่อแก้ปัญหาคอขวดในกระบวนการจองของลูกค้า ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ยอดขายเพิ่มขึ้น 30-40% ภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน
“เราคิดกันอยู่ข้างในตลอดว่า ‘อิจฉาร้านอาหารจัง’ เขามี POS ที่ใช้ง่ายและเร็วมาก ซึ่งฝั่ง LINE MAN Wongnai เชี่ยวชาญเรื่องนี้มาก การนำความเชี่ยวชาญด้าน UI (ส่วนติดต่อผู้ใช้) ที่ใช้ง่าย มาปรับใช้กับระบบคลินิกที่ซับซ้อน จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าในวงการนี้อย่างมหาศาล”
ท้ายที่สุดแล้ว ดีลระหว่าง LINE MAN Wongnai และ JERA Cloud จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวของยักษ์ใหญ่ที่เข้าซื้อกิจการดาวรุ่ง แต่คือการเริ่มต้นของบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการบริการของไทย เมื่อความเชี่ยวชาญในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ง่ายดายสำหรับผู้คนนับล้าน มาพบกับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธุรกิจความงาม นี่คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะเติมเต็มภาพของ Ecosystem บริการไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์ขึ้น และเป็นก้าวที่ชัดเจนในการนำพาภารกิจ ‘Digitalize Thailand’ ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
8 เทคโนโลยีสุขภาพแห่งอนาคต กุญแจสู่อายุยืนอย่างมีคุณภาพในยุคโรคอุบัติใหม่
Jerome Ribot เผยวิธีทำงานร่วมกับ AI เปลี่ยนความกลัวให้เป็นโอกาส