,

เคยมั้ย เจอคนวิจารณ์ แล้วเขาบอก “Don’t take it personally” (ถามจริง ทำได้หรือ?)

คำชม ใคร ๆ ก็อยากได้ ส่วนคำติเตียน ใคร ๆ ก็ไม่อยากฟัง

ฟังแล้วท้อ ฟังแล้วเหนื่อย ฟังแล้วเครียด! ใครเป็นฮะ?

ถ้ามาพร้อมกับคำว่า “Don’t take it personally” ล่ะ (อย่าถือสา/ อย่าเอามาเป็นอารมณ์/ อย่าคิดมากนะ)

เราจะทำใจ รับฟัง…ได้แค่ไหนเชียว???

ในที่ทำงาน

หัวหน้างานเรียกเราไปพบ แล้วก็เอางานที่ทำส่งมาให้ ยกมาชี้ จุดนั้น จุดนี้ แล้วก็บอกว่า ตรงนี้ไม่ดียังไง ตรงนั้นไม่ดียังไง ยิ่งพูด ยิ่งติดลม ขณะที่ไหลลื่นเพราะเพลินไปกับการวิจารณ์งาน ส่วนเรา…

กำลัง…ตัวเล็กลงๆๆ

และแล้ว อะไรมาดลใจหัวหน้างาน เขารีบสำทับว่า Don’t take it personally อย่าคิดมากนะ อย่าเอาไปคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวนะ แล้วก็…วิจารณ์ต่ออีกหนึ่งยก

คุณเคยเจอแบบนี้มั้ย? 

เวลาคนที่กำลังวิจารณ์งานเรา บอกว่า Don’t take it personally ก็ฟังดูเหมือนจะเข้าใจเรา แต่อีกนัยหนึ่ง การที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็ไม่ต่างอะไรกับ “ใบเบิกทาง” เพื่อป้องกันตัวเขาเองมากกว่าที่จะป้องกันตัวเราซึ่งเป็นคนโดนวิจารณ์

แล้วจะไม่ให้ ‘take it personally’ ได้ยังไง วิจารณ์มาซะขนาดนี้ เป็นใคร ก็ต้องคิด

ก่อนอายุ 35 ต้องทำตัวยังไงดี?

วิธีจัดการเรื่องาน เรื่องส่วนตัว และเรื่องในหัวที่ต้องคิด: ซูเปอร์ CEO ศุภจี สุธรรมพันธุ์

นักจิตวิทยาบอกว่า อยากปรับตัวได้ ต้องหัดแยกแยะก่อน

ถ้าตัวเราเป็นคนที่ไว หรือ ‘sensitive’ หรือขั้น ‘hyper-sensitive’ กับคำวิพากษ์วิจารณ์ ต้องยิ่งระวัง คุณผู้อ่านเคยรู้ตัวมั้ยว่า ตัวเองเป็นคนแบบนี้หรือเปล่า? (ไม่ได้แปลกนะ เป็นกันเยอะ!)

ในเมื่อมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องคิด…น้อยอก…น้อยใจ หรือคิดโทษตัวเอง หรือบางทีก็อยากจะโกรธกลับ สิ่งที่ทำได้ ก่อนสิ่งอื่นใดเลย ก็คือ

อย่างแรก ถามตัวเองให้ไว ที่เขาพูดมา “มันจริงมั้ย?”

ถ้ามันมีมูลความจริง เป็นไปด้วยเหตุและผลที่พูดออกมา เขามีการสื่อสารที่มีเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ คือ วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ มีคำแนะนำ และมีทางออก แล้วมันก็เป็นจริงด้วย เราก็ไม่ต้องกังวล เพราะเขามีเจตนาที่ดี

แต่ถ้าเราใช้การฟังอย่างมีวิจารณญาณแล้วพบว่า สิ่งที่เขาพูดมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อการ “ไปต่อ” ของเรา และสร้างสรรค์ แค่มันคือคำบ่น คำว่า คำตำหนิที่ขาดการกลั่นกรอง หากมาแนว ๆ นี้ เราก็ยิ่งไม่ต้องกังวล

เพราะเขาคนนี้…ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ขาดความน่าเคารพ และเรายิ่งต้อง “ก้าวข้าม” ให้ไว ยิ่งถ้าพบว่า เขาคนนี้มีนิสัย “ปากเปราะเราะร้าย” คือ ชอบวิจารณ์คนไปทั่ว ก็ยิ่งไม่สมควรไปให้ให้ความสำคัญ

ในโลกนี้ คุณเชื่อมั้ย มีคนแบบนี้จำนวนมาก พวกเขาขอให้ได้ติ ขอให้ได้ว่า ขอให้ได้ด่าออกไปบ้าง แล้วก็ลืมว่า คนฟังตกที่ต้องเป็นเป้าแบบนี้ จะรู้สึกยังไง แล้วคุณจะยังไปให้คุณค่ากับคนที่พูดจาแบบนี้ อีกหรือ?

อย่างที่สอง ถามตัวเองว่า เราเป็นคนที่เข้มงวด หรือตั้งมาตรฐานตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า?

ถ้าเราเป็นแบบนี้ ผลที่ตามมาก็คือ พอมีใครมาตำหนิ หรือวิจารณ์งานองเรา แม้เพียงเล็กน้อย เราจะรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน และอาจถึงขึ้น ผูกใจเจ็บ และคิดล้างแค้นขึ้นมา

แล้วตัวใครที่จะไม่มีความสุข เพราะในใจเดือดปุด ๆ อยู่ตลอด?

ถ้าใครมาบอกเราว่า Don’t take it personally และคุณยังต้องรับฟังเขาอยู่ คุณอาจจะบอกออกไปว่า

“ยินดีมาก ๆ เพราะปกติเป็นคนรับฟัง รักการเรียนรู้อยู่แล้ว ถ้ามีใครแนะนำอะไรมา ‘ดี ๆ’ มาให้

(คำว่า ‘ดีๆ’ คุณอย่าไปกระแทก หรือเน้นย้ำมากนะ เขาจะคิดว่า คุณกำลังโกรธใคร หรือกำลังเคืองใครอยู่หรือเปล่า)

คนในลักษณะหลังนี้ มีแนวโน้มจะพบได้ในคนจำพวก Perfectionist (อ่านเรื่อง Perfectionist จากบทความล่าสุดใน ‘เคล็ดลับนอกตำรา’)

การบริหารจัดการความคิดที่เป็นแนว Perfectionist ไม่ได้ยากเกินกว่าที่คนเราจะทำได้ เพราะเมื่อใดมีคนทำมาแล้ว แสดงว่า มันต้องมีวิธีการ

การฝึกฝนตัวเองให้พร้อมรับคำแนะนำ หรือคำวิพากย์วิจารณ์ จะทำให้เรา เป็นคนที่มีความสุขขึ้น

ตอนนี้ ผู้เขียนกำลังเตรียมทำใจและก้าวข้าม…หากมีใครมาบอกว่า วิทยา คุณเขียนได้โคตรห่วยมาก (มีคำชมบ้างก็ดีนะ)

ผมจะ Don’t take it personally! (เชื่อมั้ย?)

แหล่งที่มา:

Medium: 6 Psychological Reasons Why You Take Things Too Personally

Psychology Today: 6 Ways to Not Take Things Personally

×

Share