บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ประกาศความพร้อมใช้งานทั่วไปของ Amazon Q ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์และใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในองค์กร Amazon Q สามารถทดสอบ แก้ไขจุดบกพร่อง และมีความสามารถในการวางแผนและการใช้เหตุผลหลายขั้นตอนที่สามารถเปลี่ยนแปลง (เช่น อัปเกรดเวอร์ชัน Java) และใช้โค้ดใหม่ที่สร้างขึ้นจากคำสั่งของนักพัฒนาได้
Amazon Q ยังช่วยให้พนักงานสามารถหาคำตอบเกี่ยวกับข้อมูลทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น เช่น นโยบายของบริษัท ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ผลการดำเนินงาน ฐานข้อมูลโค้ด ข้อมูลพนักงาน และหัวข้ออื่น ๆ อีกมากมายโดยการเชื่อมต่อกับที่เก็บข้อมูลขององค์กรเพื่อสรุปข้อมูลอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์แนวโน้ม และสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ
AWS ยังเปิดตัว Amazon Q Apps ซึ่งเป็นความสามารถใหม่และมีประสิทธิภาพที่ช่วยให้พนักงานสามารถสร้างแอป Generative AI ต่าง ๆ โดยการใช้ข้อมูลของบริษัทได้ พนักงานเพียงแค่อธิบายประเภทของแอปที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติและ Q Apps จะสร้างแอปตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการและทำให้งานที่ทำเป็นประจำนั้นสามารถทำได้แบบอัตโนมัติอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ
ดร. สวามิ สิวะสุพรามาเนียน รองประธาน AI and Data ที่ AWS กล่าวว่า “Amazon Q เป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ที่มีความสามารถสูงสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมีความแม่นยำอยู่ในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ความสามารถของ Agent ขั้นสูง และระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด ช่วยให้นักพัฒนามีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้งานทางธุรกิจสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น นับตั้งแต่ประกาศบริการนี้ในงาน re:Invent เราได้เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นที่นักพัฒนาและผู้ใช้ทางธุรกิจได้สัมผัสอย่างน่าประทับใจ ในช่วงแรกมองว่า Amazon Q สามารถช่วยให้พนักงานของลูกค้ามีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นกว่า 80% และด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ AWS วางแผนจะเปิดตัวในอนาคต และคิดว่าตัวเลขประสิทธิภาพนี้จะยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
Amazon Q Developer
ปัจจุบัน นักพัฒนาบอกเราว่าพวกเขาใช้เวลาเพียง 30% (หรือน้อยกว่า) ในการเขียนโค้ด ในขณะที่เวลาที่เหลือใช้ไปกับการทำงานที่ซ้ำซากและใช้เวลานาน ซึ่งอาจรวมถึงการค้นหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากเว็บ หรือเรียนรู้วิธีการทำงานผ่านการอ่านเอกสาร ฟอรัม และการสนทนากับเพื่อนร่วมงาน นักพัฒนายังต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากร หาสาเหตุและแก้ไขข้อผิดพลาด และทำความเข้าใจต้นทุนการดำเนินงาน เมื่อพวกเขาเปลี่ยนโปรเจกต์ พวกเขาต้องใช้เวลาเรียนรู้ฐานโค้ดที่มีอยู่เพื่อทำความเข้าใจหลักการในการเขียนโปรแกรมนั้น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบและปรับโครงสร้างโค้ดใหม่ อัปเกรดแอปพลิเคชัน การดีบักและการปรับให้เหมาะสม และการรับรองความปลอดภัยโดยต้องทำการสแกนหาช่องโหว่และใช้การแก้ไขด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที บริษัทต่าง ๆ ต้องการช่วยให้นักพัฒนาใช้เวลาน้อยลงในการเขียนโค้ด และมีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า พร้อมกับสามารถใช้งานได้เร็วขึ้น
Amazon Q ช่วยนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในทุกงานตั้งแต่การเขียนโค้ด การทดสอบ และการอัปเกรดแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการแก้ไขปัญหา การทำการสแกนและแก้ไขความปลอดภัย และการปรับให้ทรัพยากรของ AWS ทำงานได้ดียิ่งขึ้น Amazon Q มอบความสามารถด้าน Generative AI ขั้นสูงที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ดังนี้
- คำแนะนำการเขียนโค้ดที่แม่นยำที่สุด: Amazon Q ช่วยให้นักพัฒนาสร้างโค้ดได้เร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นด้วยการเสนอแนะโค้ดเกือบจะทันที (near real time) ลูกค้าอย่าง Blackberry, BT Group และโตโยต้า ต่างก็ใช้ Q เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาและเร่งนวัตกรรมในองค์กรของพวกเขา Amazon Q Developer มีอัตราการยอมรับโค้ดสำหรับผู้ช่วยที่ให้คำแนะนำโค้ดหลายบรรทัดที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ BT Group เปิดเผยว่าพวกเขายอมรับคำแนะนำโค้ดของ Q ถึง 37% และธนาคารแห่งออสเตรเลียรายงานอัตราการยอมรับที่ 50% นอกจากนี้ Q ยังมีความสามารถในการปรับแต่งที่ทรงพลังซึ่งใช้ฐานโค้ดภายในของลูกค้าอย่างปลอดภัย เพื่อให้คำแนะนำโค้ดที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์มากขึ้น ด้วยความสามารถนี้ Q จึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเสนอแนะโค้ดและให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องเพื่อประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น Q รักษาข้อมูลการปรับแต่งต่าง ๆ ไว้เป็นส่วนตัวทั้งหมด และโมเดลพื้นฐาน (Foundation Model: FM) ไม่ได้ถูกนำไปใช้ในการเทรนโมเดลซึ่งเป็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอันมีค่าของลูกค้า
- Amazon Q Developer Agents: Q มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า Agent ซึ่งสามารถทำงานต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ การจัดทำเอกสาร และการปรับโครงสร้างโค้ด ไปจนถึงการดำเนินการอัปเกรดซอฟต์แวร์ นักพัฒนาสามารถขอให้ Amazon Q ใช้งานคุณฟีเจอร์ของแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ (เช่น ขอให้สร้างฟีเจอร์ “เพิ่มในรายการโปรด” ในแอปสำหรับการแชร์บนโซเชียล) และ Agent จะทำการวิเคราะห์โค้ดแอปพลิเคชันที่มีอยู่และสร้างแผนการใช้งานทีละขั้นตอน นักพัฒนาสามารถทำงานร่วมกับ Agent เพื่อตรวจสอบและทำซ้ำแผนก่อนที่ Agent จะนำไปใช้โดยเชื่อมโยงขั้นตอนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และใช้การอัปเดตกับไฟล์ต้นฉบับ บล็อกโค้ด และชุดทดสอบ ในการดำเนินงานเหล่านี้ Q ได้คะแนนสูงสุดของผู้ช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยได้คะแนน 13.4% บน SWE-Bench Leaderboard และ 20.5% บน SWE-Bench Leaderboard (Lite) ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ใช้วัดความสามารถในการเขียนโค้ด เพื่อช่วยประหยัดเวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการอัปเกรดแอปพลิเคชันของลูกค้า Q ยังสามารถทำให้กระบวนการอัปเกรดทั้งหมดเป็นแบบอัตโนมัติได้ด้วยการแปลง Java ที่พร้อมใช้งานในปัจจุบันและการแปลง .Net ที่จะมีให้เร็ว ๆ นี้
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายจาก Windows ไปใช้ Linux ได้ ในสภาพแวดล้อมสำหรับการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ (Integrated Development Environment: IDE) นักพัฒนาเพียงขอให้ Amazon Q “แปลง” โปรเจกต์ของตนและ agent จะวิเคราะห์ซอร์สโค้ดของแอปพลิเคชัน สร้างโค้ดใหม่ในภาษาหรือเวอร์ชันที่ต้องการ ดำเนินการทดสอบ และทำการเปลี่ยนแปลงโค้ดทั้งหมด ทีมงานห้าคนที่ Amazon ใช้ Q เพื่ออัปเกรดแอปพลิเคชันที่ใช้งานจริงมากกว่า 1,000 รายการจาก Java 8 เป็น Java 17 ในเวลาเพียงสองวัน (เวลาเฉลี่ยต่อแอปพลิเคชันน้อยกว่า 10 นาที) ช่วยประหยัดเวลาหลายเดือนและปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน โดยก่อนหน้านี้แอปพลิเคชันเหล่านี้แต่ละรายการใช้เวลาถึง 2-3 วันในการอัปเกรด - การสแกนและแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด: Q สแกนโค้ดเพื่อหาช่องโหว่ที่ตรวจพบได้ยาก เช่น ข้อมูลรับรองที่ถูกเปิดเผยและการแทรกบันทึก ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Q จะแนะนำการแก้ไขที่ปรับให้เหมาะสมกับโค้ดของแอปพลิเคชันโดยอัตโนมัติ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถยอมรับการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วด้วยความมั่นใจ ความสามารถในการสแกนความปลอดภัยของ Q มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเครื่องมือชั้นนำต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันในการตรวจจับบนภาษาโปรแกรมที่นิยมใช้มากที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพโค้ดของแอปพลิเคชันของนักพัฒนาได้อย่างมาก
- Q เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ AWS และปรับการใช้งาน AWS ของคุณให้เหมาะสม: Amazon Q Developer เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ AWS และอยู่ในคอนโซลเพื่อช่วยผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ปรับการใช้งานคลาวด์ให้เหมาะสม รวมถึงวินิจฉัยและแก้ไขข้อผิดพลาดและปัญหาด้านเครือข่าย เลือกอินสแตนซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยภาษามาตรฐานในการเข้าถึงฐานข้อมูล (Structured Query Language: SQL) การดึงข้อมูลออกมาจากแหล่งข้อมูล การเปลี่ยนโครงสร้างข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เราต้องการ การนำข้อมูลเข้าไปใส่ในระบบจัดเก็บข้อมูลปลายทาง (extract, transform, and load หรือ ETL) และให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทางสถาปัตยกรรม เพื่อช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานคลาวด์ของตนให้ดียิ่งขึ้น ในปัจจุบัน Amazon Q Developer ได้รวมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเห็นรายการการใช้งาน AWS การกำหนดค่า และวิเคราะห์ข้อมูลการเรียกเก็บเงินและแนวโน้ม ทำให้ง่ายต่อการจัดการบัญชีของตน ตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีสามารถถามได้ง่าย ๆ ว่า “What instances are currently running in US East 1?” หรือ “What’s my S3 bucket encryption?” หรือ “What were my EC2 costs by region last month?” และ Amazon Q Developer จะแสดงรายการการใช้งานและรายละเอียดในคำตอบที่สรุปมาพร้อมลิงก์เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
อินเทอร์เฟซการสนทนาของ Amazon Q สามารถใช้งานได้ทุกที่ที่ต้องการ ใน AWS Console ใน Slack หรือใน IDE รวมถึง Visual Studio Code และ JetBrains เพื่อให้นักพัฒนาสามารถใช้ประสบการณ์การสนทนาของ Q ในโซลูชันการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่พวกเขาชื่นชอบได้ และเพื่อขยายประสบการณ์การใช้งาน Q ไปยังพื้นที่ทำงานของนักพัฒนาให้มากขึ้น AWS กำลังประกาศขยายบริการเพิ่มเติมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Datadog และ Wiz และการผสานรวมกับ GitLab Duo ที่จะเสนออินเทอร์เฟซแบบรวมให้กับลูกค้าไม่ว่าจะทำงานบน AWS หรือ GitLab การผสานรวมความสามารถ Generative AI ของ Amazon Q เข้ากับโซลูชันที่นักพัฒนารู้จัก ใช้งาน และไว้วางใจ จะทำให้นักพัฒนาสามารถอัปเดตและสร้างซอฟต์แวร์ได้เร็วขึ้น
Amazon Q Business
องค์กรต่าง ๆ มีข้อมูลจำนวนมากที่กระจายอยู่ในเอกสาร ระบบ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ พนักงานในทุกองค์กรและแผนกใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายใน รวบรวมการวิเคราะห์ เขียนรายงาน วางแผนการนำเสนอ รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากแดชบอร์ด และปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้ร่วมงานที่มาจากแผนกต่าง ๆ Generative AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ แต่บริการที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้เชื่อมต่อกับข้อมูลธุรกิจหรือทรัพยากรภายใน และไม่ได้สร้างขึ้นด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักตั้งแต่ต้น ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้หลายองค์กรไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI ได้อย่างปลอดภัย
Q Business เป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ซึ่งสามารถตอบคำถาม สรุปเนื้อหา สร้างเนื้อหา และทำงานต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นอย่างปลอดภัยโดยอ้างอิงข้อมูลในระบบภายในขององค์กร ช่วยให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ มีการเตรียมตัวที่ดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Q รวมแหล่งข้อมูลได้มากกว่าผู้ช่วย Generative AI รายอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน: Amazon Q Business สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือทางธุรกิจที่ใช้กันทั่วไปมากกว่า 40 รายการได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย เช่น วิกิ อินทราเน็ต Atlassian, Gmail, Microsoft Exchange, Salesforce, ServiceNow, Slack และ Amazon Simple Storage Service (Amazon S3) ซึ่งมากกว่าผู้ช่วย Generative AI รายอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพียงชี้ Q ไปที่คลังข้อมูลขององค์กรมันจะทำการค้นหาข้อมูลทั้งหมด สรุปอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์แนวโน้ม และมีการสนทนากับผู้ใช้เกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในองค์กรก็ตาม
- Q Business ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: Amazon Q Business ผสานรวมกับระบบระบุตัวตนของลูกค้า ขอบเขตความรับผิดชอบ และสิทธิ์การเข้าถึงที่มีอยู่เพื่อปรับประสบการณ์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคนในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ Q สร้างคำตอบที่แม่นยำจากข้อมูลขององค์กร และลูกค้าสามารถจำกัดหัวข้อที่ละเอียดอ่อน บล็อกคำที่ต้องการ และกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกได้ Q ไม่ใช้เนื้อหาของลูกค้าในการเทรนโมเดลพื้นฐานให้กับผู้อื่น Amazon Q Business มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผู้ช่วยรายอื่น ๆ ทั้งหมดที่ออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้ ทั้งในด้านความถูกต้อง ความจริง และความเป็นประโยชน์สำหรับการถามตอบทั่วไป (โดยใช้ชุดข้อมูล MultiHop-RAG) รวมถึงชุดข้อมูลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ด้านการเงิน (โดยใช้ตัวอย่างชุดข้อมูล FiQA) และเทคโนโลยี (โดยใช้ตัวอย่างชุดข้อมูล LoTTE)
- Generative BI ช่วยให้นักวิเคราะห์สร้างแดชบอร์ดที่มีรายละเอียดได้ในเวลาไม่กี่นาที และช่วยให้ผู้ใช้ทางธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกอย่างรวดเร็ว: Amazon Q นำเทคโนโลยี Generative AI ขั้นสูงมาใช้ใน Amazon QuickSight ซึ่งเป็นบริการ Business Intelligence (BI) แบบครบวงจรของ AWS ที่สร้างขึ้นสำหรับการใช้งานบนคลาวด์ ด้วย Amazon Q ใน QuickSight ลูกค้าจะได้รับผู้ช่วย Generative BI ที่ช่วยให้นักวิเคราะห์ธุรกิจใช้ภาษาธรรมชาติเพื่อสร้างแดชบอร์ด BI ได้ในเวลาไม่กี่นาที และสร้างการแสดงผลและการคำนวณที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ BI เดียวที่สามารถสรุปผลให้ผู้บริหารด้วยแดชบอร์ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลนอกเหนือจากสิ่งที่นำเสนอในแดชบอร์ด และสร้างข้อมูลที่ละเอียดและปรับแต่งได้โดยเน้นข้อมูลเชิงลึก แนวโน้ม และปัจจัยที่สำคัญ ผู้ใช้สามารถขอให้ “สร้างเนื้อหาสรุปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในเดือนที่ผ่านมาเพื่อการทบทวนแผนธุรกิจกับผู้บริหาร” และในไม่กี่วินาที Amazon Q จะสร้างเนื้อหาที่มีข้อมูลเชิงลึกและภาพประกอบที่เฉพาะเจาะจง รวมถึงแนวคิดเกี่ยวกับการปรับปรุงธุรกิจ ผู้ใช้สามารถเลือกจัดวางเนื้อหาที่ Q สร้างขึ้นในเอกสารหรือการนำเสนอที่สามารถแชร์ต่อได้ง่าย โดยสามารถปรับแต่งข้อความ รูปภาพ และธีมได้ จากนั้นใช้ Amazon Q เพื่อเขียนข้อความขึ้นใหม่หรือปรับปรุงข้อความเดิม
- ความสามารถใหม่ช่วยให้พนักงานทุกคนเปลี่ยนจากการสนทนาไปสู่แอปที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ได้ภายในไม่กี่วินาที: วันนี้ AWS ประกาศความสามารถใหม่ของ Amazon Q Apps (อยู่ในช่วง Preview) Amazon Q Apps ช่วยให้พนักงานสามารถสร้างแอปที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ได้โดยง่ายและรวดเร็วโดยอิงตามข้อมูลของบริษัทโดยไม่ต้องมีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ดมาก่อน ด้วย Q Apps พนักงานเพียงอธิบายแอปที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ หรือสามารถนำบทสนทนาที่มีอยู่ซึ่ง Amazon Q Business เคยช่วยแก้ปัญหามาก่อน และด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Q จะสร้างแอปตามที่ต้องการได้ทันทีซึ่งสามารถแชร์ต่อภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างเช่น การสร้างแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานใหม่อาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและลำบาก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาข้อมูลจากที่เก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ เพื่อหาเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับพนักงานใหม่ และบ่อยครั้งเนื้อหาที่พบอาจล้าสมัยหรือไม่เฉพาะเจาะจงเพียงพอสำหรับตำแหน่งหน้าที่นั้น ๆ ด้วยการใช้ Q พนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพียงแค่บอกว่าต้องการแอปที่จะสร้างแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานใหม่ที่ใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของบริษัทที่มีอยู่ และมีช่องใส่รหัสพนักงานที่ทำให้แผนการเตรียมความพร้อมมีความเหมาะสมตามตำแหน่งหน้าที่ โดยดึงข้อมูลภายในที่เกี่ยวข้องกับสายงานของพนักงาน ภายในไม่กี่วินาที Amazon Q Apps จะสร้างแอปที่สามารถสร้างแผนการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคนตามตำแหน่งหน้าที่และแผนกได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นพนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถแชร์แอปนี้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการว่าจ้างภายในองค์กร เพื่อสร้างแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับทีมของตนเองได้ทันที ด้วย Amazon Q Apps ตอนนี้ธุรกิจสามารถสร้างแอปได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และปลอดภัย โดยอิงจากข้อมูลองค์กรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Apple เผยโฉม iPad Pro จอภาพ Ultra Retina XDR พร้อมชิป M4 ความจุสูงสุด 2TB
เทรนด์การออกกำลังกายในไทยโต Garmin โชว์รายได้โตกว่า 25% เดินหน้ารีเฟรซแบรนด์ เจาะทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์