‘ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์’ วิเคราะห์ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ไปต่อ หรือพอแค่นี้ ??

จากเหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที และส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง นำไปสู่คำถามต่อว่านโยบายของรัฐบาลเศรษฐาจะสะดุดหรือไม่ โดยเฉพาะโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท รวมถึงภาพรวมสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นอย่างไรต่อไป?? รัฐบาลชุดใหม่จะผลักดันหรือไม่??

ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทย บิทแคสต์ จํากัด ได้ให้ความคิดเห็นว่าเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลใหม่นำโดยพรรคเพื่อไทย โดยมี แพรทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 แต่ก็ดูเหมือนว่าลึก ๆ แล้วการดำเนินนโยบายโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต ดูจะตอบได้ไม่เต็มปากว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ มีแต่เพียงคำตอบว่าให้รอรัฐบาลใหม่ ซึ่งรัฐบาลใหม่จริง ๆ แล้วก็เป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เดิมซึ่งเป็นเจ้าของนโยบาย ทำให้ใคร ๆ หลาย ๆ คนก็งงว่าคำตอบไม่ได้

ส่วนตัวแล้วมองว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีเดิมพันที่สูงมากและมีอุปสรรคที่สูงมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยยังคงผลักดันนโยบายนี้แต่ รูปแบบอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและคดีอาจเกิดขึ้นได้กับนายกรัฐมนตรีในอนาคต

ดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายที่มีความซับซ้อนเกินกว่าที่จะนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจริง ๆ ต้องนับได้ว่าเป็นความฉลาดของคนที่คิดนโยบายนี้ ที่ตั้งใจจะเสกคูปองในอากาศมากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ใช้ต้นทุนทางการเงินที่น้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ปัญหาเรื่องการขัดกับนโยบายทางการเงินการคลัง และส่วนสำคัญคิดว่าติดในเรื่องของความรู้ความเข้าใจของประชาชนผู้ใช้งานดิจิทัล วอลเล็ต ทำให้อาจได้ไม่คุ้มกับเสีย ส่งผลต่องบประมาณการเงินของประเทศ ที่อยู่ในสภาวะขาดดุลสูงอย่างต่อเนื่อง กระทบต่อการคลังของประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งอาจต้องมีการหารือกันใหม่อีกครั้ง จึงมองว่าดิจิทัลวอลเล็ตมีแนวโน้มที่จะไม่ได้ไปต่อ หรือถ้าจะยัง ไปต่อคงต้องหาแนวทางใหม่

สำหรับการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลชุดใหม่นี้ จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่?? ศุภกฤษฎ์ มองว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมในวันนี้แข็งแรงมากขึ้น จากการยอมรับในวงที่กว้างขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลไทยออกกฎหมายและระเบียบข้อบังคับเพื่อกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมีนโยบายที่เอื้อต่อการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่ก็จะสานต่อนโยบายดังกล่าว เพื่อผลักดันให้ สินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่การใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศไทย (Mass Adoption)

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายกเศรษฐา ทวีสินนั้นไม่ได้มองสินทรัพย์ดิจิทัลในทางลบ แต่มองในทางบวกหรือไม่นั้นยังบอกไม่ได้ สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้แค่ภาครัฐไม่มองแต่ทางลบก็สามารถเติบโตได้แล้ว หวังว่านายกคนใหม่จะมีมุมมองที่ทันยุคทันสมัย ไม่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไกลตัวและเป็นเรื่องที่ต้องกีดกัน

ทั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคตสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศไทย แต่การจะบรรลุเป้าหมายในการใช้งานอย่างแพร่หลายนั้น จำเป็นต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และยกระดับมาตรฐานของการพัฒนาอุตสหกรรมนี้ให้อยู่ในแนวหน้าของโลก

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อวสาน “ดิจิทัล วอลเล็ต”?

หนึ่งเดียวในตลาดหุ้นไทย “DW01 อ้างอิง SET Index” พร้อมซื้อขายวันแรกแล้ว 19 ส.ค. 67

×

Share