ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal Groupe) ตอกย้ำผู้นำวงการบิวตี้เทค เปิดตัวนวัตกรรมล้ำสมัย ภายใต้คอนเซปต์ “ความงามเฉพาะบุคคล เสริมพลังด้วยบิวตี้เทค” (Beauty for Each, Powered by Beauty Tech) ที่งาน Viva Technology ในกรุงปารีส มุ่งนำเสนอความงามที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล คำนึงถึงความหลากหลาย และใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โซลูชันวิเคราะห์สภาพผิวและเส้นผมที่ทันสมัย ผู้ช่วยด้านความงามส่วนบุคคลจากพลัง GenAI ห้องแล็บคอนเทนต์ความงามพลังเจน GenAI (GenAI Beauty Content Lab) อย่าง CREAITECH เพื่อเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ เครื่องเป่าผมระดับปฏิวัติวงการที่ใช้เทคโนโลยีแสงอินฟราเรด อุปกรณ์ผลัดเปลี่ยนผิวระดับไมโครสำหรับการดูแลผิวขั้นสูง และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจำลองผิวมนุษย์ที่สมจริงที่สุดสำหรับการวิจัยและการทดสอบทางวิทยาศาสตร์
บาร์บารา ลาแวร์โนส รองซีอีโอฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “ปัจจุบัน การก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการความงาม ต้องเป็นผู้นำด้านบิวตี้เทคก่อน ในฐานะที่เราเป็นผู้บุกเบิกด้านบิวตี้เทคมาหลายปี เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะช่วยขยายขีดจำกัดและพลิกโฉมความงาม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก ด้วยระบบวิเคราะห์ที่ทันสมัย บริการด้านความงามที่ได้ผนวกเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ผู้ช่วยพลัง GenAI ความคิดสร้างสรรค์ที่ยกระดับไปอีกขั้นในยุคเจนเอไอ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันก้าวล้ำ ที่จะเข้ามากำหนดและขับเคลื่อนธุรกิจความงามแห่งอนาคตให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล คำนึงถึงความหลากหลาย และใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น”
นอกเหนือจากการนำเสนอนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ลอรีอัลยังเปิดตัวเทคโนโลยีด้านผิวหนังโดยลอรีอัล (Skin Technology by L’Oreal) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ชีวภาพเพื่อสร้างผิวหนังจำลอง ที่เลียนแบบผิวมนุษย์จริงได้ใกล้เคียงยิ่งขึ้น เปิดโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ แก่นักวิจัยในวงการเครื่องสำอางและสุขภาพ
ด้วยการผสมผสานกันระหว่างองค์ความรู้ด้านชีววิทยา กลศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์ Skin Technology โดยลอรีอัลสามารถเลียนแบบผิวมนุษย์ที่มีความแตกต่างและหลากหลายได้อย่างสมจริงยิ่งขึ้น รวมถึงสภาวะผิวหนังเช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังและสิว รวมถึงความสามารถในการเปลี่ยนสีผิวเป็นผิวแทน และการฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ
ปัจจุบัน ลอรีอัลกำลังทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพและสถาบันที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อให้ผิวหนังจำลองสามารถรับความรู้สึกได้จริง Skin Technology นี้จะเข้ามายกระดับมาตรฐานการทดสอบผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมความงามที่ปราศจากการทดลองกับสัตว์ ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่ลอรีอัลยึดมั่นมาตั้งแต่ปี 2532
เปิดตัวห้องแล็บคอนเทนต์ความงามพลัง GenAI
ในงานนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป ยังได้เปิดตัวห้องแล็บคอนเทนต์ความงามพลัง GenAI อย่าง CREAITECH ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการสุดล้ำ พร้อมเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อพลิกโฉมการผลิตคอนเทนต์สำหรับลอรีอัล กรุ๊ป
CREAITECH เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับการทดลองใช้ GenAI และเปิดโอกาสให้ลอรีอัลขยายขอบเขตการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สอดรับกับแบรนด์และท้องถิ่น ครอบคลุมแบรนด์ด้านความงามทั้ง 37 แบรนด์ของบริษัท และในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้นักการตลาดของเราได้เพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
ผนึก Meta เปิดโครงการ New Codes of Beauty Creator Program
นอกจากนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป ยังประกาศความร่วมมือกับเมตา (Meta) และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชั้นนำ เพื่อขยายขอบเขตแห่งความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน
อัสมิตา ดูเบย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลและการตลาดของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “ห้องแล็บคอนเทนต์ความงามพลัง GenAI อย่าง CREAITECH คือบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการผสานศักยภาพมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยี GenAI ที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ลอรีอัลใช้แบรนด์ คัสตอม โมเดล (Brand Custom Model) ที่พัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อฝึก GenAI ให้จดจำรหัสภาพเฉพาะของแบรนด์ และเปิดตัวแคมเปญด้านความงามใหม่ ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ ลอรีอัลทำสิ่งเหล่านี้ได้โดยไม่ขัดกับหลักจริยธรรมด้านการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ ซึ่งรวมถึงการหลีกเลี่ยงการใช้ภาพใบหน้า ร่างกาย ผม และผิวหนังที่ดูเหมือนจริงแต่สร้างขึ้นด้วย AI เพื่อโปรโมตหรือระบุถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ในการสื่อสารกับบุคคลภายนอก”
ดูเบย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ลอรีอัลยังผนึกกำลังกับเมตาในการเปิดตัวโครงการ New Codes of Beauty Creator Program เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเหล่าครีเอเตอร์ในการใช้เทคโนโลยี 3D, AR และ AI เพื่อเปิดพรมแดนใหม่แห่งความงาม แบรนด์ต่าง ๆ ของลอรีอัล อย่างลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) ลังโคม (Lancôme) และลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay) กำลังร่วมกันบุกเบิกแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ นี้ ด้วยการทำงานร่วมกับทีมครีเอเตอร์ที่เชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีสุดล้ำจำนวน 30 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ด้านเทคโนโลยี
นวัตกรรมที่ลอรีอัลนำไปโชว์ที่งานวีว่า เทค
บิวตี้เทคสำหรับผู้บริโภค
- คีลส์ เดอร์มา-รีดเดอร์ (Kiehl’s Derma-Reader) คือเครื่องตรวจสภาพผิวที่ใช้ประเมินสภาพผิวของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางคลินิก เครื่องตรวจสภาพผิวนี้สามารถวัดคุณลักษณะของผิวได้มากกว่า 11 รายการ ทั้งบนผิวและใต้ผิว เพื่อแนะนำส่วนผสมที่เหมาะสมและเคล็ดลับไลฟ์สไตล์ นอกเหนือไปจากกิจวัตรการดูแลผิวอย่างตรงจุด เพื่อเติมเต็มกิจวัตรการดูแลผิวประจำวันของลูกค้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- ลังโคม รีเนอร์จี นาโน-รีเซอร์เฟซเซอร์ | 400 บูสเตอร์ (Lancôme RENERGIE NANO-RESURFACER| 400 BOOSTER) คืออุปกรณ์เสริมความงามที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซึมซาบของเครื่องสำอางเข้าสู่เซลล์ผิวชั้นนอกสุดหรือชั้นผิวหนังกำพร้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์นี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนาโนชิปล้ำสมัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว ประกอบด้วยปลายหัวนาโนที่มีความแม่นยำสูงมากกว่า 400 หัว เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกสำหรับการใช้งานที่บ้าน
- ลอรีอัล ปารีส บิวตี้ จีเนียส (L’Oréal Paris Beauty Genius) คือผู้ช่วยความงามส่วนบุคคลแบบครบวงจรที่ใช้เทคโนโลยี AI เชิงรู้สร้าง พร้อมให้บริการวิเคราะห์และให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับความงามอย่างง่ายดายและสะดวกสบาย
- ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล แอร์ไลท์ โปร (L’Oréal Professionnel AirLight Pro) คือเครื่องเป่าผมระดับปฏิวัติวงการ เพื่อเส้นผมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยสร้างสรรค์ขึ้นทั้งสำหรับมืออาชีพด้านความงามและผู้บริโภคที่ใช้งานในบ้าน แอร์ไลท์ โปร ผสานแสงอินฟราเรดเข้ากับลมความเร็วสูงเพื่อทำให้ผมแห้งอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้เส้นผมมีคุณภาพดีขึ้น ส่งผลให้เส้นผมเรียบลื่นและเป็นประกายเงางาม
- ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล มาย แฮร์ [ไอดี] แฮร์ รีดเดอร์ (L’Oréal Professionnel My Hair [iD] Hair Reader) คือเครื่องวิเคราะห์สีผมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยใช้แสงที่มีความแม่นยำสูงในการวิเคราะห์สุขภาพของเส้นผมและตรวจวัดสีผม รวมถึงสีธรรมชาติและสีย้อมผม เปอร์เซ็นต์ของผมหงอก เส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นใยผม และความหนาของผม เพื่อมอบสีผมที่เหมาะสมกับลูกค้าในทุก ๆ ครั้งที่ทำสีผม
บิวตี้เทคสำหรับอุตสาหกรรม
- สกิน เทคโนโลยี โดยลอรีอัล (Skin Technology by L’Oréal) นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่ลอรีอัลเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเนื้อเยื่อสังเคราะห์ (reconstructed human skin) ด้วยโมเดลทดสอบที่ล้ำสมัยสำหรับการวิจัยทางชีววิทยาและผิวหนัง โดยผสานรวมองค์ความรู้ชั้นนำจากหลากหลายสาขา ทั้งชีววิทยา กลศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาแบบจำลองการทดสอบที่ครอบคลุมและเลียนแบบความซับซ้อนของผิวหนังมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ โดยมีเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานการทดสอบในอุตสาหกรรมความงาม ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงการสุขภาพ บริษัทสตาร์ตอัพ ไปจนถึงสถาบันวิจัยต่าง ๆ ได้ประโยชน์จากความรู้ความชำนาญนี้อย่างเต็มที่
- ลอรีอัล ครีเอไอเทค เจนเอไอ บิวตี้ คอนเทนต์ แล็บ (L’Oréal CREAITECH GenAI Beauty Content Lab) ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ครีเอไอเทค เจนเอไอ บิวตี้ คอนเทนต์ แล็บได้ใช้เอนจินของอินวิเดีย (Nvidia) กับดับเบิลยูพีพี (WPP) เช่นเดียวกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ดิฟฟิวชันโมเดล และพันธมิตรรายต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสำหรับการทดสอบ ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ทดสอบเทคโนโลยีเอไอเชิงรู้สร้างมากกว่า 20 เทคโนโลยี รวมถึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการหลายสิบครั้งร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือ เพื่อสร้างภาพความงามมากกว่า 1,000 ภาพ นอกจากนี้ CREAITECH ยังบุกเบิกการพัฒนาโมเดลแบบคัสตอมของแบรนด์ (Brand Custom Models) รวมถึงการฝึกด้วยการป้อนโค้ดสำคัญจากแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือลอรีอัล เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่สอดรับกับแบรนด์ โดยลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay) และเคเรสตาส (Kérastase) เป็นผู้บุกเบิกกลุ่มแรก ด้วยการใช้บริการที่ได้รับการปรับแต่งนี้ในกระบวนการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของแบรนด์
- เศรษฐกิจครีเอเตอร์คือแนวทางใหม่ในโลกแห่งความงาม (New Codes of Beauty: Creator Economy) ลอรีอัล กรุ๊ป และเมตา ได้เปิดตัวโครงการ “New Codes of Beauty Creator Program” เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเหล่าครีเอเตอร์ในการใช้เทคโนโลยี 3D, AR และเอไอ เพื่อเปิดพรมแดนใหม่แห่งความงาม โดยแบรนด์ชั้นนำอย่างลอรีอัล ปารีส, ลังโคม และลา โรช-โพเซย์ ได้ร่วมกันบุกเบิกแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ นี้ ผ่านการทำงานร่วมกับทีมครีเอเตอร์ที่เชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีสุดล้ำ 30 คน เป้าหมายของความร่วมมือนี้คือ การปลดปล่อยพลังแห่งการสร้างสรรค์ด้านเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบครีเอเตอร์ที่กำลังเติบโต
ความยั่งยืนทางดิจิทัล
ลอรีอัลเป็นผู้ลงโฆษณารายใหญ่อันดับ 4 ของโลก และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรมวัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกิจกรรมทางดิจิทัลของบริษัท และเพื่อสำรวจหาแนวทางในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเสนอความร่วมมือ 3 ด้านที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางดิจิทัลแบบ 360 องศา
- IMPACT+ บริษัทสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีความยั่งยืนจากฝรั่งเศส ที่เปิดโอกาสให้สามารถวัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสื่อดิจิทัลของลอรีอัล
- ADGREEN พันธมิตรเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้สามารถวัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขั้นพื้นฐานจากการถ่ายทำคอนเทนต์ของลอรีอัล
- และ FRUGGR บริษัทสตาร์ตอัพฝรั่งเศสที่ช่วยใหสามารถวัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเว็บไซต์ของลอรีอัล
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ETDA เผยมูลค่าอีคอมเมิร์ซไทยปี 66 แตะ 5.96 ล้านล้านบาท อุตสาหกรรมประกันภัยโตมากสุด
KCG ชูกลยุทธ์ “Fusion กินnovation” ดันรายได้ปี 66 แตะ 7,157 ล้านบาท เติบโตสูงสุดในรอบ 65 ปี