สำหรับคนทำงาน ยุคนี้นับเป็นยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม ไปจนถึงเทคโนโลยี ล้วนหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปจนตั้งตัวแทบไม่ทัน โดยเฉพาะในสายงานด้านการตลาดและธุรกิจ ที่ต้องติดสปีดตัวเองให้ไล่ตามเทรนด์ต่าง ๆ ให้ทันอยู่เสมอ แต่จะทำอย่างไรไม่ให้ตกขบวน? และจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง?
ท๊อป – จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Bitkub Capital Group Holdings ร่วมเจาะลึกถึงบทบาทของ AI ที่จะปฏิวัติความเชี่ยวชาญของนักการตลาดและคนทำงานสายธุรกิจในหัวข้อ ‘Marketing’s AI Awakening : From Oops! to Opportunity – How AI Disrupts Business and Marketing Professionals’ ในงาน Marketing Oops! Summit 2024
โลกเปลี่ยน…หลังจากนี้คือเรื่องของเทคโนโลยี
เราเริ่มเห็นแล้วว่าอุตสาหกรรมในยุคเก่า ๆ เริ่มที่จะหยุดพัฒนา และรอการรื้อทิ้ง เราต้องเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อไปทั้งในด้านของการมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AR/VR/MR และการพิมพ์ 3D จะมีการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น และเม็ดเงินทั้งหมดจะไหลไปที่ Frontier Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่จะต้องให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการพัฒนาในอนาคต เพราะนี่คือเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมในยุคเก่า โดยในหลายประเทศเริ่มที่จะวางโครงสร้างพื้นญานกันแล้ว ทำให้ธุรกิจยุคเก่าตายลง และแทนที่ด้วย Frontier Technology ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องของ AI
แต่อย่างที่รู้กันว่า เทคโนโลยีนั้นมีการลงทุนค่อนข้างมาก หลายประเทศเล็ก ๆ จึงเกิดการรวมตัวกันเพื่อให้สามารถสร้างเทคโนโลยีของตัวเองขึ้นมาได้ อย่างในแถบอาเซียนของเราก็มีการรวมกลุ่มนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะเรียกกันว่า ‘DEFA’ (Asian Digital Economy Framework Agreement) โดยเป็นกรอบข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังจะเกิดขึ้นใน ASEAN ซึ่งจะช่วยทำให้หลายประเทศในอาเซียนเติบโตขึ้น เช่นในไทยเอง ก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ถึง 200% เรียกว่าเม็ดเงินจะไหลเข้ามาอย่างมหาศาลมากขึ้น โดยผลกระทบที่จะได้ประโยชน์จากการรวมกลุ่มนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ด้าน คือ
- ASEAN Single Windows เป็นการเชื่อมต่อการขนส่งแบบไร้พรมแดน การส่งของไปยังต่างประเทศทำได้ง่ายและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากยิ่งขึ้น ตลาดการค้าขายจึงใหญ่ขึ้นทำให้มีโอกาสค้าขายได้มากขึ้น ส่งผลให้อาเซียนยกระดับเศรษฐกิจจนกระโดดขึ้นไปเป็นอันดับที่ 4 ของโลกได้ทันที
- Mobility of talents จะเป็นการขอวีซ่าและพาสปอร์ตที่ขอครั้งเดียว สามารถใช้เข้าประเทศได้ทุกประเทศในแถบอาเซียนเหมือนกับวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ของทางยุโรป ซึ่งรวมไปถึงการนำเข้า-ส่งออก
- Regional payment integration การโอนเงินข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม (free flow of payment) การซื้อขายข้ามประเทศก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น ตลาดหลังจากนี้จะไม่ได้มีแค่ในประเทศอีกต่อไป แต่จะใหญ่ขึ้นไปในระดับอาเซียน ซึ่งมีจำนวนประชากรอยู่ประมาณ 600 ล้านคน แน่นอนว่า จะส่งผลต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนได้มากขึ้นด้
AI จะเป็น Frontier Technology อีกหนึ่งอย่างที่น่าจับตามอง
อย่างที่ทราบกันดีว่ากระแสของ AI กำลัง และการพัฒนาของ AI นั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลายเทคโนโลยีเริ่มแซงหน้าอย่าง AI ของประเทศจีนตอนนี้กำลังก้าวล้ำหน้าของประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้ว และหลายเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันก็จะอำนวยความสะดวกให้กับการใช้งานได้มากขึ้น และจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ไปตลอดกาล รวมถึงช่วยสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอีกมากมาย
ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนไป เช่น ในอนาคตสิริที่ใช้อยู่อาจจะทำงานได้ด้วยการเขียน Prompt Engineer หรือการสั่งการด้วยเสียง (Conversational AI) แบบไม่ต้องกดเข้าแอปพลิเคชันเองอีกต่อไป ทำให้ทำงานตามสั่งได้แบบ Automation หรือในอนาคตแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยอย่าง slack, trello, mailchimp อาจจะมีเบื้องหลังการทำงานเป็น AI มากขึ้น ทำให้ทุกอย่างรันอยู่ข้างหลังบ้าน และทำงานหน้าบ้านได้สะดวกกว่าเดิม
ดังนั้น AI อาจจะเข้ามามีบทบาทกับเรามากขึ้นและส่งผลกระทบต่อการทำงานต่าง ๆ ผู้ก่อตั้ง Bitkub ได้สรุป 3 เทรนด์ของ AI ที่จะนำพาเราก้าวสู่โลกอนาคตเอาไว้ดังนี้
- Augmentation – AI จะช่วยให้มนุษย์ทำงานได้มีคุณภาพ รวดเร็ว และสำเร็จได้มากขึ้น เช่น การเข้ามาช่วยในการทำงานด้าน Customer Support ทำให้คนไม่จำเป็นต้องมาตอบคำถามเดิมเพื่อ Support ลูกค้า ให้ AI ทำงานแทน และให้คนหันไปโฟกัสในด้านการขาย และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
- Automation – การทำงานหลายงานในตำแหน่งเดียวก็อาจจะลดลง เพราะให้ AI ทำงานแทนได้แถมยังแม่นยำมากกว่าด้วย ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการควบรวมตำแหน่งในกลุ่มของ White-collar jobs มากขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความสามารถของคนทำงานจะหายไป แต่หมายถึงอาจจะไม่มีความจำเป็นที่คนเราจะไปทำงานในสิ่งที่ AI ทำงานแทนให้ได้ ดังนั้น การ Re-skill และ Up-skill ของคนทำงานก็จะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น เพราะในปัจจุบันงานหลายอย่างสามารถแทนที่ด้วย AI ได้แล้ว เช่น งานที่ไม่ต้องใช้สมอง เป็นงานซ้ำซาก จำเจที่ใช้แรงในการทำ เช่น งานเอกสารที่ต้องดาวน์โหลดโยนเข้าอีเมลเพื่อส่งต่อ ปัจจุบันสามารถ Integrate ตัวแอปมาใช้งานแทนได้ทันที
- Digital Human – AI จะทำงานหรือทำหน้าที่บางตำแหน่งแทนมนุษย์ได้เลย เพราะ AI ยิ่งทำงานยิ่งฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะทำให้บางตำแหน่งถูกทดแทนด้วย AI ได้ เช่น AI moderator, AI Visual doctor, AI Lawyer ฯลฯ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเราจะสามารถเชื่อใจ AI ได้ขนาดนั้นหรือไม่ และนักธุรกิจที่ทำ AI นั้นจะทำให้ AI มี Core Value ด้าน Ethics ได้ด้วยจริงไหมในอนาคตโดยไม่ดูเพียงแค่กำไรที่จะได้เท่านั้น
สุดท้ายแล้วเราจะเห็นว่าเรื่องของเทคโนโลยีนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้วในปัจจุบัน ดังนั้น นี่จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว Ai จะเป็นเรื่องที่อิมแพ็คกับทุกคนในทุกระดับอย่างแน่นอน เราจึงควรเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถปรับตัวให้สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างเชี่ยวชาญ
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เงินเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต แต่ระวัง..อย่าปล่อยให้เงินทำลายชีวิต
บอกหมดเปลือก! กลยุทธ์สร้างแคมเปญการตลาดสุดปังของ KFC