, ,

เจาะโมเดล Transformation โรงพยาบาลสมิติเวช

เมื่อเทคโนโลยี AI กำลังมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอุตสาหกรรม Healthcare (การดูแลสุขภาพ) จนถึงขั้นพลิกโฉมวงการ Healthcare ให้ก้าวล้ำกว่าเดิม ถ้าโรงพยาบาลใดเห็นความสำคัญของเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้ และมีการเลือกและนำมาใช้ให้เหมาะสมกับบริบทขององค์กร จนกลายเป็น Solution ได้ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้คนเจ็บป่วยรุนแรงถ้ามีการตรวจพบหรือวินิจฉัยได้แม่นยำและรวดเร็วด้วย AI

ในงาน KBTG Techtopia: A Blast From the Future นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาล BNH เผยถึงประสิทธิผลของเทคโนโลยี AI ในวงการ Healthcare ว่าสามารถช่วยรักษาชีวิตคนได้อย่างไร พร้อมเล่าถึงประสบการณ์การทำ Transformation โรงพยาบาลสมิติเวชที่ใช้เวลานานมากกว่า 7 ปี ถึงจะเปลี่ยนคนในองค์กรให้เข้าสู่ยุค AI First ได้  

หมอชัยรัตน์ระบุว่า การ Transformation องค์กรเพื่อเข้าสู่ยุค AI ต้องเริ่มจาก Human Transformation, Leader Transformation, Corporate Transformation และ Digital Transformation เพื่อให้เป็น Human First, Transformation First แล้วค่อยเป็น AI First เพราะการปรับเปลี่ยนใด ๆ ต้องทำตามขั้นตอน ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกต่อต้านและล้มเหลวได้  

ผ่าองค์กรเป็น 2 ทีม ทีมเปลี่ยนและทีมไม่เปลี่ยน

หมอชัยรัตน์เล่าว่า โรงพยาบาบเริ่มต้นจากการไปดูคนที่ไม่เปลี่ยนซึ่งมีจำนวนมากกว่าคนที่เปลี่ยน ทำสิ่งที่ไม่เปลี่ยน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่เปลี่ยน องค์กรเก่าแก่อย่างรพ.สมิติเวชก็ต้องติดเครื่องมือให้เขาเพื่อให้เขารู้กระบวนท่าของการตัดต่อแต่งเติม ต้องเปลี่ยนกระบวนท่าใหม่หมด อย่างน้อยทำให้คนที่ช้า ๆ เคลื่อนที่เร็วขึ้นได้ 

“จากที่เคยเป็นปลิงดูดเลือด เป็นเต่าคลานช้า ใครเป็นอินทรีก็ต้องสลัดขน ปรับเปลี่ยนงานให้กลายมาเป็นกบที่มีความ Agility กระโดดก็ได้ เปลี่ยนสีก็ได้ กลายเป็นผีเสื้อที่ทําให้ป่าเขียวชอุ่มและผสมเกสร และกลายเป็นปูเทวดา ที่มีทั้ง Agility และ Value” 

เป้าหมายของการ Transformation ก็เพื่อสร้างคุณค่าให้องค์กร ตามแนวคิด “เพราะเราไม่อยากให้ใครป่วย” โรงพยาบาลจึงนำ Technology มาช่วยตรงนี้  

“หลักการของเราคือ ล้อม ไหล ล้ำ ล่อ  ล้อมคือช่วยกันคิดหลาย ๆ คน ไหลคือต้องปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด ใช้กระบวนท่าเดียวกันไม่ได้ ขณะที่ล้ำคือสามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้ ส่วนล่อคือต้องรู้ว่า Risk ของเรามีอะไรบ้าง”  

ขณะที่อีกกลุ่มเป็นกลุ่มคนเปลี่ยนซึ่งมีจำนวนไม่มาก ทำสิ่งที่เปลี่ยน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เปลี่ยน จึงดึงมาแยกเป็นอีกหนึ่งบริษัท แล้วในบริษัทนั้นก็แยกออกเป็นเซ็ตย่อย โดยมีโจทย์คือ เมื่อลูกค้าไม่ไปโรงพยาบาล จะใช้การรักษาแบบ Telemedicine (รักษาทางไกล) พนักงานกลุ่มนี้ตั้งเป็นทีม Transformation ที่ประกอบไปด้วย

  • T Team มีหน้าที่คือ ทำ Business Model ใหม่
  • Ant Team คือคนที่อยู่ตามสนามหรือตามพื้นที่จัดการโรงพยาบาล ทุกคนสามารถที่จะคิดสิ่งใหม่ได้ ซึ่งใน 5 ปีกว่าที่ผ่านมาเราคิดโครงการใหม่ 1,500 โครงการ 
  • MD Team คือทีมที่เป็นหมอด้วยและคิดเก่งด้วย ที่ให้มาดูว่ามีอะไรที่เป็น Smart Process ที่หมอสามารถคิดได้
  • X Team เป็นทีมที่สําคัญที่สุด เป็นทีมที่ทําลายโรงพยาบาลก่อนที่โรงพยาบาลจะถูกทําลาย ทีมนี้จะเร่งสร้างอนาคตเพื่อทําลายปัจจุบัน ก่อนที่ปัจจุบันจะถูกทําลายโดยอนาคต เพราะปัจจุบันคืออดีตของอนาคต 
  • Avatar AI คือซับเซ็ตของ Digital Transformation 

ผู้นำก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลง 

ก่อนที่จะ Transformation องค์กร ต้อง Transform มนุษย์ด้วยโดยเฉพาะคนที่เป็น Leader ซึ่งมี 4 ประเภทด้วยกันคือ

  • Agile Leader  ผู้นำที่รู้ว่าจะใช้ Agile อย่างไร ใช้หยินและหยางอย่างไร มีกระบวนการรุก-รับอย่างไร  
  • Situation Leader ผู้นำที่ต้องเท่าทันทุกสถานการณ์
  • Dynamic Leader ผู้นำที่ต้องฉวยโอกาสและนำเป็น
  • Growth Leader ผู้นำที่ต้องมี Mindset, Skillset และ Toolset ต่างๆ 

“และสิ่งสําคัญที่สุดคือสร้าง Inspiration ให้คนมีพลัง ทำอย่างไรให้คนมี Passion หรือที่เรียกว่ากระบี่อยู่ที่ใจ ต่อให้คุณมีระบบ เป็นจอมยุทธ์ มีกระบี่ แต่ถ้ากระบี่ไม่อยู่ที่ใจ ก็ไม่สามารถทําให้คนในองค์กรเข้าใจสิ่งที่เรากําลังทําอยู่ ความสำเร็จก็ไม่เกิด” 

AI Adoption เลือกให้ตรงบริบทองค์กร

เมื่อ AI ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายหน้าที่ในวงการ Healthcare หมอชัยรัตน์แนะนำให้เลือกใช้เทคโนโลยีให้ตรงและเหมาะกับบริบทขององค์กร โดยไม่จำเป็นต้องทำทุกเรื่อง เลือกทำเฉพาะที่ตรงกับจุดแข็งขององค์กร สอดรับกับความต้องการของลูกค้า สอดรับกับตลาด แล้วดูว่าจุดที่ทําอยู่สร้าง Value หรือไม่ เพราะถ้าสร้างคุณค่าได้ รายได้ก็จะตามมาเองในขณะที่ค่าใช้จ่ายจะลดลง 

และที่สำคัญคือเวลาจะ Take Action ตาต้องเปิดกว้าง Vision ต้องมองไกลให้เห็นว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร หาสูตรธุรกิจออกมาให้ได้ว่าอะไรเป็น Business Opportunity อะไรเป็น Risk อะไรคือ Challenge และอะไรคือ Pain Point หรือเป็น Pain Point ของลูกค้า แล้วดึงเฉพาะเรื่องนั้นมาทํา ก็จะมีดาต้าเฉพาะเรื่องนั้นเรื่องเดียว ก็ทําให้ทําง่ายขึ้น แล้วจากดาต้าตรงนั้น ค่อยนำ AI มาวิเคราะห์หรือมาคาดการณ์ เมื่อ AI สามารถวิเคราะห์เป็น คาดการณ์เป็น ก็จะเกิดเป็น Solution แล้วเราก็นำ Solution นี้ไปใช้ แต่ Solution ต้องตรงกับบริบทของโรงพยาบาล

หมอยกตัวอย่างของโรงพยาบาลสมิติเวชให้ฟังว่า โจทย์ธุรกิจคือ ทุกคนอยากจะมีสุขภาพดี ต้องเอาข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำให้สุขภาพไม่ดี เช่น ข้อมูลที่ทําให้เกิดโรคหัวใจ เกิดมะเร็ง เป็นต้น มาดู จากนั้นก็เอาข้อมูลไปให้ AI วิเคราะห์ว่าเราจะสามารถ Predict ได้ก่อนหรือช่วยเขาก่อนได้หรือไม่ หรือว่าวินิจฉัยพบเร็วขึ้นได้หรือไม่ 

AI ช่วยรักษาชีวิตคน

เทคโนโลยี AI ที่โรงพยาบาลสมิติเวชนำมาใช้ เช่น AI Colonoscopy (การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ด้วยเทคโนโลยี AI) ตอนนี้มีความแม่นยําขึ้น 1.5 เท่า ช่วยลดอัตราการตายลง 53% ช่วยชีวิตคนได้ 207 คน และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 100 ล้านบาท

ส่วน AI Digital Risk Score คือการวัดค่าความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจด้วย AI ด้วยระบบนี้ โรงพยาบาลสมิติเวชสามารถช่วยชีวิตคนได้ 5,000 ชีวิต ประหยัดเงินได้ 800 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้มี 217 รายที่อยู่ดี ๆ เจ็บหน้าอกและอาจจะเสียชีวิตในอีก 1-2 ปี เพราะตรวจแล้วพบ Risk Score เป็นสีแดง จะขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนให้  

“Solution ที่ได้มาตรงกับบริบทของเรา เพราะสโลแกนของเราคือ เราไม่อยากให้ใครป่วย การทำแบบนี้ลูกค้าก็พอใจ ตลาดตอบรับ ลูกค้าไปบอกต่อ ถ้าสิ่งที่เราทำไปแล้วมี Value ทำให้องค์กรมีคุณค่าก็คือสุดยอดแบรนด์ การตรวจพบความเสี่ยงก่อน ไม่ใช่มาตรวจพบขั้นรุนแรงจนต้องผ่าตัด ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้าน Healthcare ลง ทุกคนก็แข็งแรงขึ้นก็ช่วยสร้าง GDP ให้ประเทศ”

อนาคต Healthcare เน้น Prevention

ส่วนอนาคตของวงการ Healthcare นั้น จะเป็นเรื่องของการ Prevention หรือป้องกันไม่ให้ป่วย จะ Personalized มากขึ้น และต้อง Prediction ให้แม่นยำมากขึ้นว่าคนไข้กำลังจะป่วยเป็นอะไร เพื่อใส่ Treatment เข้าไปให้ถูกต้องและทันท่วงที คนจะได้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล 

“การมุ่งไปสู่การ Prevention เป็นเรื่องดี ทำให้ความต้องการโรงพยาบาลน้อยลง แทนที่จะต้องมาโรงพยาบาล ก็สามารถรับการรักษาทาง Telemedicine ได้ หรือเปลี่ยนเป็น Personal Care แล้วไปสู่ Prediction แล้วก็ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล” หมอชัยรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

AI กับอนาคตการศึกษา ตัวช่วยเพื่อเด็กและผู้สอนที่ดีกว่า

BCPG จับมือ KBank ออกหุ้นกู้ “บอนด์พลัสคาร์บอนเครดิต” พัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิตผ่านการระดมทุน

×

Share